ในการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ จะมีองค์ประกอบที่แบ่งออกอย่างชัดเจนคือ มี Header เป็นส่วนหัว Body คือส่วนกลางหรือที่เราจะรู้กันว่าเป็นส่วนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามดีไซน์ของการออกแบบหน้าเว็บ ส่วน Footer รับหน้าที่เป็นส่วนปิดท้าย เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะแสดงผลเหมือนกันทุกหน้า ดังนั้น ผู้ทำเว็บส่วนใหญ่จะเลือกใส่โลโก้บริษัท, แบรนด์ หรือพวก Contact ต่างๆ ในการติดต่อสอบถามข้อมูลลงในส่วนนี้ เพราะจะเป็นจุดที่ผู้เข้าใช้เว็บจะเห็นได้ตลอดเวลา
ซึ่งท่านจะสามารถทำการแก้ไขได้ โดยจะต้องทำผ่าน Widget ซึ่งจะใช้วิธีเดียวกันกับการแก้ไขในส่วนที่เป็น Sidebar ถ้าถามถึงความสำคัญของส่วนนี้ SEOGURU คงจะตอบได้ว่ามีความสำคัญเท่าๆกับส่วนหัวเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยการที่ในส่วนนี้จะปรากฎอยู่ทุกหน้าที่ผู้ใช้งานเว็บเข้ารับชม จะสามารถทำหน้าที่ดักผู้ใช้งานให้นำไปสู่การดูข้อมูลของบริษัท หรือจะเป็นข้อมูลในส่วนอื่นๆ ลิงก์ภายนอกที่เอาไว้ติดต่อ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าได้โดยทันทีที่สนใจในธุรกิจของคุณ
Footer คืออะไร?
คือส่วนที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บไซต์ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นพื้นที่ที่มีความกว้างเท่ากับหน้าเว็บและแสดงอยู่ทุกหน้าของเว็บไซต์ ส่วนนี้มักจะใช้ในการใส่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเว็บไซต์, ข้อมูลการติดต่อ, ลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลมีเดีย, ลิงก์ไปยังหน้าสำคัญอื่น ๆ ของเว็บไซต์ รวมถึงข้อมูลลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการใส่โลโก้ของบริษัท, เมนูการนำทางเสริม, ข่าวสารหรืออัปเดตล่าสุด, และฟอร์มสมัครรับจดหมายข่าว (Newsletter) ได้อีกด้วย
มีความสำคัญอย่างไร
มีความสำคัญมากในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ เนื่องจากมีบทบาทและประโยชน์หลายอย่าง ดังนี้
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์
เป็นที่ที่เหมาะสมในการใส่ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท, ประวัติ, ภารกิจ, และค่านิยม ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้เข้าใจและมีความเชื่อมั่นในเว็บไซต์มากขึ้น การให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กร ส่วนท้ายช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับผู้ใช้
- ให้ข้อมูลการติดต่อ
มักจะเป็นที่ที่ใส่ข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่อีเมล, ที่อยู่บริษัท ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อเราได้ง่ายและสะดวก ข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจนและเข้าถึงง่ายช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ในการติดต่อเรา ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือการแจ้งปัญหา
- แสดงลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลมีเดีย
การใส่ลิงก์ไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram, LinkedIn ใน ส่วนท้าย เหมือนกับ sidebar ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามและเชื่อมต่อกับเราได้บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ การมีลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลมีเดียช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และการติดต่อกับผู้ใช้ในหลายช่องทาง และถือเป็นการทำ Digital Marketing Online ได้อีกด้วย
- แสดงลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
สามารถใส่ลิงก์ไปยังหน้าสำคัญอื่น ๆ ของเว็บไซต์ เช่น หน้าคำถามที่พบบ่อย (FAQs), หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy), หน้าเงื่อนไขการใช้งาน (Terms of Service) หรือหน้าเกี่ยวกับเรา (About Us) ทำให้ผู้ใช้สามารถนำทางไปยังหน้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น การมีลิงก์ไปยังหน้าสำคัญเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วและสะดวก
- ให้ข้อมูลลิขสิทธิ์
เป็นที่ที่สามารถใส่ข้อมูลลิขสิทธิ์ เช่น © ปี, ชื่อบริษัท ข้อมูลลิขสิทธิ์ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์นี้มีการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ การใส่ข้อมูลลิขสิทธิ์ใน page footer คือ ช่วยป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
- ช่วยในการทำ SEO
หากมีการจัดวางและออกแบบอย่างดี สามารถช่วยเพิ่มคะแนน SEO ให้กับเว็บไซต์ได้ โดยการใส่ข้อมูลที่มีประโยชน์และลิงก์ที่สำคัญ การมีลิงก์ที่เกี่ยวข้องและคำสำคัญในการช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถค้นหาและจัดอันดับเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใส่ลิงก์ไปยังหน้าภายในเว็บไซต์ (Internal Links) ในส่วนท้ายยังช่วยให้ Google สามารถนำไปใช้ในการสร้างดัชนี (Google indexing) ที่ดีกว่า
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ
ส่วนท้ายที่มีข้อมูลครบถ้วนและมีการออกแบบที่ดี จะคล้ายกับ sidebar ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บไซต์นี้มีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นมืออาชีพ การมีข้อมูลที่ชัดเจนและการออกแบบที่สวยงามช่วยสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับผู้ใช้ การมีข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน การแสดงข้อมูลลิขสิทธิ์ และการมีลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลมีเดียช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
- เพิ่มโอกาสในการโฆษณาและโปรโมทเนื้อหา
สามารถใช้ในการโฆษณาหรือโปรโมทเนื้อหาที่สำคัญได้ เช่น การแสดงโปรโมชั่นพิเศษ, การโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่, หรือการเชิญชวนให้ผู้ใช้สมัครรับจดหมายข่าว (Newsletter) การใช้ส่วนท้ายในการโปรโมทช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ใช้และสร้างการมีส่วนร่วมมากขึ้น
- รองรับการนำทางที่ดีขึ้น
หากมีการออกแบบและจัดวางลิงก์อย่างเป็นระบบช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำทางได้ง่ายขึ้น การมีเมนูนำทางเสริมหรือลิงก์ที่ชัดเจนใน ส่วนท้าย จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วและสะดวก
- สร้างความต่อเนื่องในการใช้งาน
การมี page footer คือ มาตรฐานในทุกหน้าของเว็บไซต์ช่วยสร้างความต่อเนื่องในการใช้งาน ผู้ใช้สามารถคาดหวังได้ว่าจะหาข้อมูลที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าของเว็บไซต์ใด การมี ส่วนท้ายที่สม่ำเสมอและมีข้อมูลที่ครบถ้วนช่วยให้ผู้ใช้ไม่สับสนและสามารถนำทางได้ง่าย
สรุป
ส่วนท้ายเป็นส่วนสำคัญของเว็บไซต์ที่มีบทบาทในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์, ข้อมูลการติดต่อ, ลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลมีเดีย, ลิงก์ไปยังหน้าสำคัญอื่น ๆ ของเว็บไซต์ รวมถึงข้อมูลลิขสิทธิ์ การมี ส่วนท้าย ที่มีการออกแบบและจัดวางอย่างดีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ, ความสะดวกสบายในการนำทาง, และประสิทธิภาพในการทำ SEO ของเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการโฆษณาและโปรโมทเนื้อหาที่สำคัญได้อีกด้วย แต่ถ้าหากท่านไม่อยากจัดการหน้าเว็บไซต์ด้วยตนเอง SEOGURU เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ สามารถ ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแผนการทำเว็บไซต์ได้เลยที่นี่