Content Hub ควรทำอย่างไร – แนวทางล่าสุดของการทำ SEO

ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณ นั้นยังทำอันดับได้ไม่ดี ก็ลองให้ทุกท่านลองกลับมาเช็คดูก่อนว่า การทำคอนเทนต์ภายในเว็บของคุณ นั้นมีการจัดระเบียบให้ดีหรือยัง และถ้าหากยังไม่เป็นระเบียบ ก็จำเป็นที่จะต้องมาทำการ จัดกลุ่มเนื้อหา หรือที่เรียกว่า Content Hub เพื่อที่จะทำให้บทความภายในเว็บ นั้นมีหมวดหมู่เนื้อหา ที่เป็นระเบียบ และเชื่อมโยงกันมากขึ้นกว่าเดิม บอกได้เลยว่าบางครั้งเพียงแค่จัดกลุ่มบทความ ก็จะทำให้เว็บไซต์ของทุกท่าน มีโอกาสที่จะอันดับขึ้นดีมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังจะช่วยทำให้เนื้อหาเองมีคอนเทนต์ดีๆ เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ทำความรู้จัก Content Hub คืออะไร ?

Content Hub นั้นคือ การจับกลุ่มของเนื้อหา คอนเทนต์ ต่างๆภายในเว็บไซต์ของเรา ที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อที่จะทำให้มีการแยกเป็นหมวดหมู่ที่ถูกต้อง และอยู่รวมกันโดยมี hub page ที่ถือว่าเป็นหัวใหญ่สุดของหมวดหมู่ และรองลงมาคือ sub page ที่จะถูกย่อยแตกแขนงออกมา และแน่นอนว่าแต่ละหน้าบทความนั้นก็จะมีการเชื่อมโยงกัน ด้วยการทำ internal links โดยเทคนิคการทำรูปแบบนี้ถือว่าเป็น เทคนิคที่จะช่วยทำให้เว็บไซต์นั้นทำอันดับ seo ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนั้นแล้วการจัดหมวดหมู่ของคอนเทนต์ให้ถูกต้อง ก็ยังช่วยทำให้เราสามารถควบคุมการทำบทความเพิ่มได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย รวมไปถึงการค้นหา ก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นักพนันทุกท่านได้เป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วการทำ Content Hub จึงถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ทำอันดับเว็บไซต์

คอนเทนต์ฮับ มีผลต่อการทำ seo ยังไงบ้าง ?

เชื่อว่าตอนนี้นักทำเว็บทุกท่านน่าจะรู้กันแล้วว่า คอนเทนต์ฮับ หมายถึงอะไร โดยในขั้นตอนต่อไปเราก็พาทุกท่านไปดูกันว่า ประโยชน์ของการทำ คอนเทนต์ฮับ นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งจะช่วยในการทำอันดับเว็บไซต์ได้มากขนาดไหน บอกเลยว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านได้เป็นอย่างดีแน่นอน

• Google Bot เก็บข้อมูลง่ายขึ้น

แน่นอนว่าปัจจุบันนี้ Google นั้นได้ใช้งานให้ทาง Google Bot เป็นตัวเข้ามาเก็บข้อมูลของเว็บไซต์แต่ละเว็บ เพื่อที่จะดูแลความเป็นระเบียบ รวมไปถึงการตรวจสอบว่าเว็บนั้นสมบูรณ์แบบหรือไม่ นอกจากนั้นแล้วการเชื่อมลิงก์ของแต่ละหน้าเข้าหากัน ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสทำอันดับ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย ถือว่าเป็นผลดีต่อการทำเว็บไซต์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

• ทำให้ Core Topic มีพลังมากขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่าถ้าหากเว็บไซต์มีการทำ คอนเทนต์ฮับ ที่เป็นระเบียบอยู่แล้ว แถมยังมีการทำลิงก์เชื่อมต่อกันอีกด้วย ก็จะช่วยทำให้ตัวเว็บนั้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญยังสามารถที่จะดันหน้า Core Topic ให้มีโอกาสติดอันดับได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

• ทำให้เว็บมี Traffic มากขึ้น

การที่ทางเว็บไซต์มีการทำ Internal links เป็นจำนวนมาก ก็จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานจริง สามารถเข้าใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเราสามารถที่จะกดอ่าน คอนเทนต์ต่อไปได้เรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นการวนอยู่ภายในเว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์จะได้รับทราฟฟิกจากผู้ใช้งานจริงมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

• มีความน่าเชื่อถือ

แน่นอนว่าการที่เนื้อหาของคุณ มีคุณภาพสูง นั่นก็จะทำให้มีโอกาสที่จะติดอันดับมากขึ้น โดยอาจจะเป็นการอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่นๆ มายังหน้าของคุณ แน่นอนว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ คอนเทนต์ของคุณ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีผู้เข้ามาใช้งานมากขึ้นอีกด้วย

• ผ่านเกณฑ์ EEAT

การที่ทางเว็บไซต์นั้นจะเลือกเว็บไหน เป็นเว็บที่ติดอันดับ นั้นจะต้องผ่านการประเมินคุณภาพที่ดีที่สุดก่อน ซึ่งเกณฑ์ที่นำมาใช้งานหลักๆก็จะถูกเรียกว่า EEAT ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะใช้พิจารณาว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีคะแนนที่เหมาะสมหรือเปล่า และถ้าหากเว็บไหนมีการทำ คอนเทนต์ฮับ ก็จะทำให้เว็บนั้นมีคะแนนที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม

วิธีการทำ Content Hub เพื่อดันอันดับ seo ต้องทำยังไง ?

ในส่วนของการทำอันดับ ปกติแล้วก็จะต้องเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ถึงจะเข้าเกณฑ์ EEAT เพื่อที่จะทำให้ทำอันดับใน Google ง่ายขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่าการที่จะทำ คอนเทนต์ฮับ ให้ออกมาดีที่สุด ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทุกท่านควรทำความเข้าใจ และในวันนี้พวกเราก็จะพาทุกท่านไปดูกันว่า ขั้นตอนการสร้างนั้นมีอะไรบ้าง บอกเลยว่ามือใหม่ก็ทำได้เช่นเดียวกัน

• ค้นหา Keyword

ก่อนที่เราจะทำเว็บไซต์ สิ่งแรกที่เราควรทำก็คือ การค้นหา Keyword เพื่อที่จะนำมาทำเป็นหน้าต่อๆไป โดยเราจะต้องทำการ Research เพื่อที่จะหาคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูง แต่การแข่งขันต่ำ และที่สำคัญต้องเป็นคีย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณด้วย เพื่อที่จะได้มีความสอดคล้องกันมากขึ้นกว่าเดิม

• ทำ Core Topic ของเนื้อหาหลัก

หลังจากที่ได้ Keyword ที่ต้องการแล้ว สิ่งถัดไปที่ต้องทำก็คือ การเลือกว่าคีย์เวิร์ดไหนจะนำมาทำเป็น คอนเทนต์ฮับ และคีย์เวิร์ดไหนที่จะนำมาทำเป็น sub hub โดยทุกท่านจะต้องทำการ กำหนด Core Topic เอาไว้ก่อน เพื่อที่จะได้เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาใช้งาน แต่สิ่งหลักๆเลยก็คือ Content Hub นั้นจะต้องมีเพียงแค่หน้าเดียว ส่วนถ้าหากเป็น sub hub นั้นจะมีทั้งหมดกี่หน้าก็ได้ และที่สำคัญจะต้องมีการทำ internal links เชื่อมหากันไปมาทั้งหมดด้วย

• จัดวางกลุ่มบทความ ให้เป็นระเบียบ

สิ่งต่อมาก็คือ การวางโครงสร้างให้เป็นระเบียบ หรือที่เรียกกันว่า Content Pillar ซึ่งถือว่าเป็นการวางแผนลำดับของเนื้อหาบทความ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ทำลิงก์หากันได้ทั้งหมด และยังทำให้เราไม่หลงประเด็นออกจากเนื้อหาของคีย์เวิร์ดที่เราเลือกเอาไว้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องทำ คอนเทนต์หลัก เป็นอันดับแรก และค่อยๆทำคอนเทนต์ในหน้าต่อๆไปเรียงตามลำดับ

• ทำบทความย่อย

หลังจากที่เราได้ทำการวางแผนเสร็จแล้ว ต่อไปก็ให้เราเริ่มการทำ เนื้อหาย่อย หรือ Cluster Content โดยถือว่าในส่วนนี้จะทำให้ทุกท่านแทรกการทำลิงก์ได้ง่ายขึ้น แถมยังสามารถที่จะกลับไปยังหน้าหลักได้ตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ทุกท่าน เข้าใช้งานตัวเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง

โดยทั้งหมดนี้ก็คือ การทำเว็บ คอนเทนต์ฮับ ที่จะช่วยทำให้เว็บของทุกท่าน ติดอันดับการทำ seo ง่ายขึ้นกว่าเดิม และบอกเลยว่ายิ่งเว็บไหนมี คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสติดอันดับมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นแล้วการจัดกลุ่มบทความให้ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก และถ้าหากใครที่สนใจอยากจะทำเว็บไซต์ ให้ติดอันดับ ก็สามารถที่จะใช้บริการกับทางเว็บ seoguru ได้ตลอดเวลา การันตีเลยว่า เว็บของทุกท่านจะติดอันดับอย่างง่ายดายแน่นอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE ได้ 24 ชั่วโมง

การทำ Content Hub ในปี 2025 ควรอัปเดตอย่างไรให้ตอบโจทย์ SEO ปัจจุบัน

อัลกอริทึมของ Google ในปี 2025 ให้ความสำคัญกับ “โครงสร้างข้อมูลที่ชัดเจนและสัมพันธ์กัน” มากกว่าเดิม ซึ่งหมายความว่าการมี Content Hub ที่วางแผนดีจะช่วยให้บอทของ Google เข้าใจความเชื่อมโยงของเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และยังช่วยยืนยันความเชี่ยวชาญของเว็บไซต์ในหัวข้อนั้น ๆ

สิ่งที่ควรอัปเดตคือ การจัดลำดับความสำคัญของคีย์เวิร์ด ให้เหมาะกับเส้นทางการค้นหาของผู้ใช้ เช่น จากคำค้นระดับกว้าง (Broad Keyword) ไปสู่คำเฉพาะ (Long-tail Keyword) เพื่อให้ผู้อ่านสามารถไล่เนื้อหาได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ควรเพิ่ม Link Context หรือคำอธิบายสั้น ๆ ก่อนใส่ลิงก์ เพื่อให้ผู้ใช้และ Google เข้าใจว่าส่วนที่ลิงก์ออกไปเกี่ยวข้องกับอะไร

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในยุคนี้คือการทำ Entity-Based SEO หรือการเชื่อมโยงคีย์เวิร์ดกับเอนทิตี (Entity) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ถ้าคุณเขียน คอนเทนต์ฮับ เกี่ยวกับ “การทำ SEO” ก็อาจเพิ่มความเชื่อมโยงไปยังหัวข้ออย่าง “Keyword Research”, “On-Page SEO”, หรือ “Backlink Strategy” เพื่อสร้างแผนผังเนื้อหาที่สมบูรณ์และช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

ทำไม UX (ประสบการณ์ผู้ใช้) ถึงสำคัญกับ คอนเทนต์ฮับ

หลายเว็บไซต์มักโฟกัสแต่โครงสร้างลิงก์ภายใน (Internal Link) โดยลืมไปว่า ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) คือหัวใจสำคัญของ คอนเทนต์ฮับ ที่ดี เพราะแม้เนื้อหาจะเป็นหมวดหมู่ แต่ถ้าผู้อ่าน “สับสน” หรือ “หาข้อมูลไม่เจอ” ก็เท่ากับเสียคะแนน SEO ไปฟรี ๆ

เว็บไซต์ควรมีการออกแบบ Navigation ที่ชัดเจน, Breadcrumb ที่ใช้งานง่าย, และ หน้า Hub Page ที่อธิบายภาพรวมของหัวข้อนั้น ๆ อย่างกระชับ เพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าพวกเขากำลังอยู่ในส่วนใดของเว็บไซต์ การจัดวางภาพประกอบ สรุปย่อ หรือกล่องแนะนำบทความที่เกี่ยวข้องก็ช่วยให้คนอยู่ในเว็บนานขึ้น ลด Bounce Rate และเพิ่ม Conversion ได้จริง

นอกจากนี้ Google ยังให้ความสำคัญกับ User Journey ที่ราบรื่น เช่น การอ่านบทความจาก Hub Page แล้วคลิกต่อไปยัง Sub Page ได้โดยไม่หลงทาง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสัญญาณบวกที่ช่วยให้เว็บของคุณมีอันดับดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งลิงก์ภายนอกเลย

วิเคราะห์ผลลัพธ์ของ Content Hub ด้วยเครื่องมือ SEO

เมื่อทำ คอนเทนต์ฮับ ไปสักระยะหนึ่ง การวัดผลคือขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่า “บทความไหนกำลังทำงานได้ดี” และ “บทความไหนต้องปรับปรุง”

เครื่องมือยอดนิยมอย่าง Google Search Console ช่วยให้คุณดูได้ว่าหน้า Hub Page ของคุณมีการคลิก (CTR) และ Impression เท่าไหร่ รวมถึงคีย์เวิร์ดที่กำลังติดอันดับ นอกจากนี้ยังควรใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs หรือ SEMrush เพื่อดูว่าหน้า Sub Page ไหนมีลิงก์ภายในเชื่อมโยงมากที่สุด และคอนเทนต์ใดได้รับ Backlink จากเว็บอื่นบ้าง

อีกเทคนิคที่หลายคนมองข้ามคือการ อัปเดตบทความย่อย (Cluster Content) อย่างสม่ำเสมอ เพราะเนื้อหาที่มีการอัปเดตบ่อยจะส่งสัญญาณให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ยัง “มีชีวิต” อยู่ตลอดเวลา เมื่อรวมกับการเชื่อมโยงที่ดีจาก คอนเทนต์ฮับ ก็จะยิ่งช่วยให้หน้า Core Topic ของคุณแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

บทสรุปล่าสุดของ Content Hub

การทำ Content Hub ในยุค SEO 2025 ไม่ได้หมายถึงแค่การวางลิงก์เชื่อมโยงกัน แต่คือการสร้าง “โครงสร้างเนื้อหาเชิงกลยุทธ์” ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจ และ Google มองเห็นว่าเว็บไซต์ของคุณคือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ยิ่งเว็บมีระบบการจัดกลุ่มเนื้อหาดีเท่าไร ยิ่งส่งผลให้อันดับขึ้นไวและคงที่มากขึ้น

หากคุณต้องการตรวจสอบหรือออกแบบ คอนเทนต์ฮับ ให้เหมาะกับ SEO ปัจจุบัน สามารถปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจาก SEOGURU ได้ฟรี เราช่วยวิเคราะห์โครงสร้างเว็บ วางแผนคอนเทนต์ และสร้างกลยุทธ์การเชื่อมโยงที่เหมาะกับธุรกิจของคุณอย่างมืออาชีพ