ประโยชน์ของ Seo คือ ช่วยให้ เว็บไซต์ของคุณติดอันดับผลการค้นหาแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ เป็นวิธีที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ได้ดีที่สุด
นอกจากประโยชน์หลักของ SEO จะเป็นการเพิ่มจำนวนคนเข้ามาชมเว็บไซต์แล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีก ที่คนยังไม่ค่อยรู้ ซึ่งก็คือ Seo สามารถช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตในระยะยาวได้อีกด้วย
ถ้าหากว่าตอนนี้ คุณกำลังตัดสินใจว่า จะลงทุนในด้าน SEO ดีไหม ลองมาอ่าน 10 ประโยชน์ของการทำ SEO ที่อาจจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. SEO ช่วยให้คนค้นพบธุรกิจของคุณ
SEO ช่วยให้คนค้นพบธุรกิจของคุณเมื่อพวกเขาต้องการข้อมูล และค้นหาจากใน Google เมื่อเว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบ โดยการค้นหาข้อมูลในเวลาที่กำลังต้องการอยู่พอดี โดยอาจจะค้นหาเว็บไซต์ของคุณจากข้อมูลต่อไปนี้
- ค้นหาจากชื่อธุรกิจของคุณ
- ค้นหาจากสินค้าและบริการที่มีอยู่ในเว็บไซต์ของคุณ
- ค้นหาจากหััวข้อที่มีอยู่ในเว็บไซต์ของคุณ
- ค้นหาสินค้าหรือบริการที่อยู่ในท้องถิ่นของคุณใน Google maps
และตามผลสำรวจของ Google ในปี 2024 พบว่ามากกว่า 50% ของผู้ที่เข้าร่วมสำรวจใช้ Google เพื่อค้นพบแบรนด์หรือสินค้ามาใหม่ ดังนั้น การติดอันดับในผลการค้นหาธรรมชาติ (Organic Results) ถือเป็นวิธีที่เชื่อถือได้ในการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก
2. SEO ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคุณ
SEO ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคุณ เพราะคนส่วนใหญ่ไว้วางใจธุรกิจที่ปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา
ตามรายงานจาก Edelman ปี 2024 พบว่า 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามไว้วางใจผลการค้นหาจากเครื่องมือค้นหาสำหรับข่าวสารและข้อมูลทั่วไป ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 6% จากปีที่แล้ว
Google ส่งเสริมให้เว็บไซต์ต่างๆ ปฏิบัติตามกรอบ E-E-A-T เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่ง E-E-A-T ประกอบด้วย
Experience : เนื้อหาจากประสบการณ์จริง และกรณีศึกษา
Expertise : เผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพสูงที่แสดงถึงความรู้ในด้านสินค้า หรือ บริการของคุณ
Authority : เนื้อหาที่ครอบคลุมหลายหัวข้อ
Trust : ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย

3. SEO มอบผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่คุ้มค่า
SEO ให้ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่ดีมาก เพราะต้นทุนต่ำ และการคลิกจากผลการค้นหาธรรมชาติ (Organic) บนเครื่องมือค้นหาที่ฟรี
ใช้สูตรนี้ในการคำนวณ ROI : (รายได้จาก SEO – ต้นทุน SEO / ต้นทุน SEO) x 100

หลายธุรกิจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน SEO อย่างมาก จากการศึกษาของ First Page Sage พบว่าการทำแคมเปญ SEO สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงถึง 317% ถึง 1389% ในช่วงระยะเวลา 3 ปี ครอบคลุมถึง 19 อุตสาหกรรม
หากทีมของคุณจัดการ SEO เอง ค่าใช้จ่ายอาจลดลงได้อีก ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวดีขึ้นอย่างมาก
เคล็ดลับ : สร้างบัญชี Semrush ฟรีเพื่อเข้าถึงเครื่องมือที่สามารถช่วยให้คุณทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของตัวเองได้
อ่านบทความเพิ่มเติม >> คู่มือการทำ SEO ฉบับสมบูรณ์ ประจำปี 2025
4. SEO ส่งเสริมแบรนด์ของคุณตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
เมื่อเนื้อหาของคุณติดอันดับในผลการค้นหา ผู้คนจะสามารถค้นพบธุรกิจของคุณได้ตลอดเวลา
โฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) จะแสดงเนื้อหาของคุณเฉพาะเมื่อคุณจ่ายเงินเพื่อทำแคมเปญ แต่การค้นหาธรรมชาติสามารถมอบการมองเห็นที่ต่อเนื่องให้กับคุณได้
สามารถปรับปรุงเนื้อหาได้ด้วยวิธีการ ดังนี้
- อัปเดตเนื้อหาของคุณอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อยปีละครั้ง)
- การเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่มีความสำคัญต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์
- การส่งเสริมแบรนด์ของคุณผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และการประชาสัมพันธ์
5. SEO สนับสนุนช่องทางการตลาดอื่น ๆ
SEO ช่วยเพิ่มประโยชน์ให้กับช่องทางการตลาดอื่น ๆ ได้อีก
ตัวอย่างเช่น การปรับแต่งความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ (งาน SEO) ช่วยรักษาผู้ใช้ที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณจากโฆษณา.
นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเนื้อหา SEO มาใช้ใหม่ในช่องทางอื่น ๆ ได้ เช่น
- โปรโมทบล็อคหรือเว็บไซต์ผ่านทาง E-mail
- แชร์บนสื่อโซเชียลมีเดีย
- ใช้มันเป็นเครื่องมือดึงดูดลูกค้า
มื่อคุณลงทุนในการทำ SEO, คุณยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การตลาดโดยรวมของคุณด้วย
6. SEO ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณในทุกด้าน
การปรับปรุง SEO สามารถเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้และความเร็วของการโหลดหน้าเว็บ
การปรับแต่ง SEO ทางเทคนิคหลายอย่างยังช่วยปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ เช่น
- การแก้ไขลิงก์เสียที่ส่งผู้ใช้และบอทค้นหาไปยังหน้าเว็บที่ไม่มีอยู่จริง
- การแก้ไขเนื้อหาที่ซ้ำกันซึ่งทำให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาสับสน
- การใช้แท็ก hreflang ที่ตรงกับความชอบด้านภาษาและช่วยให้ Google จัดอันดับหน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง
การแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ยังสามารถปรับปรุง Core Web Vitals ได้อีกด้วย Google พิจารณาเมตริกเหล่านี้ในการจัดอันดับการค้นหา
ใช้ “การตรวจสอบเว็บไซต์” (Site Audit) เพื่อรับรายการปัญหาของเว็บไซต์ที่อาจส่งผลกระทบต่อ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ
หลังจากที่คุณกำหนดค่าและทำการตรวจสอบแล้ว ให้คลิกที่แท็บ “ปัญหา” (“Issues”) “ข้อผิดพลาด” (“Errors”) จะแสดงอยู่ด้านบนสุดและเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขโดยด่วนที่สุด (เช่น คำขอที่ไม่ถูกต้อง 400, ลิงก์ภายในเสีย หรือปัญหาอื่นๆ)

การแก้ไขปัญหาเหล่านั้นบนเว็บไซต์ของคุณสามารถปรับปรุงการมองเห็นและเพิ่มประสบการณ์หน้าเว็บของคุณได้
7. SEO มีประโยชน์อย่างมากต่อการประชาสัมพันธ์
Off-page SEO ยังสามารถปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ดิจิทัล (digital public relations) ได้ด้วยการนำธุรกิจของคุณไปปรากฏบนเว็บไซต์อื่น ๆ กระบวนการนี้มักเกี่ยวข้องกับการได้รับ backlinks (ลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ)

backlinks จากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเกี่ยวข้องกัน
กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำ PR และ SEO ประกอบด้วย
- การเขียนบทความรับเชิญ
- การทำ Podcasting
- โพสต์ทางโซเชียล มีเดีย
- การสร้างข้อมูลอ้างอิงในท้องถิ่น
8. SEO ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Local SEO ช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับเมื่อผู้ใช้ค้นหาสินค้าหรือบริการในพื้นที่เฉพาะ
มันยังสามารถทำให้ธุรกิจของคุณมีคุณสมบัติที่จะปรากฏใน Google Local Pack ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสามแห่งที่อาจปรากฏอยู่ด้านบนสุดของผลการค้นหาในท้องถิ่น

การศึกษาในปี 2024 จาก Backlinko พบว่า 42% ของผู้ใช้คลิกที่ผลลัพธ์ใดผลลัพธ์หนึ่งใน Local Pack เหล่านี้ การจัดอันดับในตำแหน่งนี้จึงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
การปรับแต่งโปรไฟล์ธุรกิจ Google ของคุณให้เหมาะสมสามารถทำให้ธุรกิจในท้องถิ่นของคุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การโทรศัพท์ การนัดหมาย หรือการเดินเท้าเข้ามาในร้านที่มากขึ้น
9. SEO ช่วยให้คุณรักษาความสามารถในการแข่งขัน
บริษัทจำนวนมากในอุตสาหกรรมของคุณน่าจะใช้ SEO การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO สามารถช่วยให้คุณเข้าใจกลยุทธ์ของพวกเขาและรักษาความสามารถในการแข่งขัน
- วิเคราะห์ข้อมูล จากแหล่งข้อมูล ดังนี้
- การระบุ คีย์เวิร์ดหลัก ที่คุณต้องการจัดอันดับเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำ SEO
- หาไอเดียเพื่อคอนเท้นใหม่ๆ
- การหาโอกาสในการสร้างลิงก์
ใช้ภาพรวมโดเมน (Domain Overview) เพื่อค้นหาคู่แข่งของคุณและวิเคราะห์กลยุทธ์การทำ SEO
10. SEO ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น
การศึกษาคีย์เวิร์ดหลักของ SEO และความตั้งใจในการค้นหา (search intent) ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเป้าหมายและความกังวลของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
Google ไม่ได้สนใจแค่ว่าผู้ใช้พิมพ์คำค้นหาอะไร แต่สนใจว่าผู้ใช้ต้องการอะไรจริง ๆ จากการค้นหานั้น
4 ปัจจัยหลักในการค้นหา
ข้อมูล : ผู้ใช้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
การนำทาง : ผู้ใช้ต้องการค้นหาเว็บไซต์เฉพาะ
เชิงพาณิชย์ : ผู้ใช้กำลังค้นคว้าผลิตภัณฑ์หรือบริการ
การทำธุรกรรม : ผู้ใช้ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ
ใช้ Keyword Overview เพื่อค้นหาเป้าหมาย สมมติว่าธุรกิจของคุณขายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ก็จะป้อนหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เลือกตำแหน่งเป้าหมายของคุณ และคลิก “ค้นหา”

ตามรูปด้านล่าง คือ หัวข้อ “ของเล่นสุนัขที่ปลอดภัยที่สุด” มีการค้นหา 110 ครั้งต่อเดือน

ข้อมูลนี้บอกคุณว่าผู้คนจำนวนมากในตลาดเป้าหมายของคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเมื่อซื้อของเล่นสุนัข คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่เน้นของเล่นสุนัขที่ปลอดภัยและบอกประโยชน์ของมันได้
ซึ่งจะช่วยให้คุณ สร้างเนื้อหาที่ตรงกับความตั้งใจในการค้นหาของลูกค้าและเมื่อคุณให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรง ก็จะเกิดความน่าเชื่อถือ
ทำ SEO ให้ถูกวิธีและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้
ตอนนี้คุณรู้ประโยชน์ของการทำ Seo แล้วว่ามีอะไรบ้าง คงอยากจะลองใช้กับธุรกิจของตัวเองแล้วใช่หรือไม่ ?
แต่การทำ SEO นั้นค่อนข้างซับซ้อน และบางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน Google เองก็มีมาตรฐานสำหรับเนื้อหาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การสร้างเนื้อหาคุณภาพต้องใช้เวลาและความพยายามมาก
ดังนั้น ลองพิจารณาทดลองใช้แพลตฟอร์มอย่าง Semrush ก่อน เพราะจะสามารถช่วยคุณระบุสิ่งที่ต้องแก้ไขบนเว็บไซต์ของคุณ และแนะนำหัวข้อที่คุณควรเริ่มเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หรือ ถ้าไม่อยากเสียเวลาทำเอง สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน Seo อย่าง Seo Guru ที่จะมีคำแนะนำ และ วิธีการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google ได้อย่างมืออาชีพ สามารถติดต่อปรึกษา Seo ทางไลน์ Official ของเราได้ฟรี
