โฆษณาสินค้า เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้า ทำยังไงให้โดนใจ

โฆษณาสินค้า

ในปัจจุบันนั้นการที่จะทำธุรกิจโดยการเปิดหน้าร้านอย่างเดียว แต่ว่าไม่มีการทำการโปรโมตสินค้าและบริการเลย อาจจะไม่ดีนักสำหรับธุรกิจ เพราะไม่สามารถหาลูกค้าจากช่องทางอื่นๆ นอกจากลกค้าที่ผ่านหน้าร้านมาแล้วเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการสร้างฐานลูกค้าเพิ่ม โฆษณาสินค้า ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญ ที่จะช่วยให้สินค้าและบริการของเราเข้าถึงคนหมู่มาก และ ขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ โฆษณาแบบออนไลน์ และ การโฆษณาแบบออฟไลน์

ซึ่งหากเป็นการทำแบบออนไลน์นั้นถือว่าการนั้นต้องอาศัยองค์ความรู้ และ ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแนะนำ เพราะว่าต้องวิเคราะห์ และ ดูความเหมาะสมให้ดีอีกด้วยต้องเข้าใจธรรมชาติของการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ และในการทำการตลาดก็ยังต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอีกด้วย การโฆษณา สินค้า ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

ดังนั้น สำหรับบทความนี้พวกเรา SEOGURU จะพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับการ โฆษณา ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิธีการโฆษณา หรือ เทคนิค การ โฆษณา มีขั้นตอนและวิธีการทำแบบไหน และ มีเทคนิคให้ลูกค้าสนใจยังไงได้บ้าง เอาล่ะ ไปดูกันเลยทุกท่าน

3 วิธีโฆษณาสินค้าที่ดี และ มีประสิทธิภาพ

วิธ๊ทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ

จุดประสงค์ของการ โฆษณา สินค้า ก็คือการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคให้มีความต้องการหรือ เกิด (Action) ตามที่ผู้โฆษณาต้องการให้เป็น เช่น สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์สินค้า ว่าสินค้าชนิดนี้สามารถทำอะไรได้ และ มีแบรนด์นี้วางขายอยู่นั้นเอง , เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ ด้วยโปรโมชั่นที่มีระยะเวลาที่จำกัด เป็นต้น ซึ่ง โฆษณาที่ดี และ มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องมีทั้ง 3 อย่างนี้ประกอบเข้าด้วยกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ

1. ต้องโน้มน้าวใจ และ มีความดึงดูด

ข้อความการโฆษณาไม่ว่าจะเป็น การพาดหัว หรือ ข้อความภายใน หรือ รูปภาพปก จะต้องมีความดึงดูด ให้กลุ่มเป้าหมายกดเข้าไปดูให้ได้ ซึ่งส่วนงานนี้หากเป็นการโฆษณาขนาดใหญ่อาจต้องพึ่งพาในส่วนของ Content Marketing ซึ่งรูปแบบในการทำโฆษณา นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น การนำปัญหาของลูกค้ามาเป็นหัวข้อ เมื่อลูกค้ากดเข้ามาดูเสร็จแล้ว หากในบทความสามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ และ ขั้นตอนสุดท้าย ก็ดึงไปสู่การขายสินค้าและบริการ ที่อยากนำเสนอ เป็นต้น

2. โฆษณาสินค้าต้องมีความคิดสร้างสรรค์

โฆษณาที่ดี และ มีประสิทธิภาพ ควรที่จะสื่อสารความต้องการของธุรกิจส่งตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยคนทำสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาได้อย่างชัดเจน ดังนี้

  • สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ บอกถึงธุรกิจ หรือ ตัวแบรนด์สินค้า เพื่อให้คนหมู่มากพอทราบว่า แบรนด์นี้มีอยู่ และ สินค้าบริการที่ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงนั้นมีขายอยู่ในปัจจุบัน
  • ทำให้คนสนใจ ทำให้กลุ่มเป้าหมาย ที่ดู โฆษณาสินค้า เข้าใจได้ว่า สินค้าและบริการของเราชนิดนั้น จะสามารถช่วยเหลือเขาในด้านใดได้บ้าง
  • กระตุ้นความต้องการ ทำโฆษณา ให้ผู้คนเกิดการสนใจ หรือ ต้องหยุดดู ยกตัวอย่างเช่น การจัดโปรโมชั่นขึ้นมาเพื่อกระตุ้น หรือ การจองเอาไว้ก่อนเป็นต้น
  • ช่วยปิดการขาย การปิดการขายนั้นอาจทำได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น กระตุ้นโดยการโฆษณาโปรโมชั่นแบบมีระยะเวลาจำกัด สร้างความรู้สึกว่า หากไม่ซื้อตอนนี้ จะไม่คุ้มเป็นต้น ทางที่ดีหากมีการโทรเพื่อปิดด้วยจะมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นอีกด้วย

3. ข้อเสนอที่ตรงใจ

ข้อเสนอ หรือ Offer คือ อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยในการทำการตลาด และ กระตุ้นยอดขาย ก็คือ ข้อเสนอที่ตรงใจที่สุด ช่วยโน้มน้าวใจลูกค้า และกระตุ้นความต้องการ หากยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ อยากเช่นคุณอยาก ทำโฆษณา สินค้า ประเภทรถยนต์ ข้อเสนอที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

ที่เราอาจพบเห็นโดยทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น ไม่จำเป็นต้องวางเงินก่อนก็ซื้อรถได้โดยใช้เครดิตเท่านั้น หรือ เรียกว่า ฟรีดาว นั้นเอง หรือ หากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินเยอะหน่อย โปรที่สนใจอย่างเช่น ดาวเยอะหน่อย แต่ดอกเบี้ยต่ำลง เป็นโปรที่จัดขึ้นมาเพื่อ กลุ่มลูกค้า คนละกลุ่มเกิดความสนใจ

ทำไมการ โฆษณาสินค้า ถึงสำคัญกับธุรกิจ

สำหรับ ธุรกิจ หรือ สินค้าและบริการ ที่เพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่การที่จะทำให้สินค้านั้นปัง หากใช้โฆษณาช่วย เอาล่ะไปดูกันว่า การทำโฆษณานั้นสำคัญแบบไหนกับการทำธุรกิจ และ มีความจำเป็นอย่างไรบ้าง

ทำไมโฆษณาถึงสำคัญกับธุรกิจ
  • สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brands Awareness) คือสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ลูกค้าทุกท่านรู้ว่า ธุรกิจเรากำลังทำอะไรอยู่ เชี่ยวชาญในด้านไหน และ แก้ปัญหาให้กลุ่มผู้ซื้อในด้านไหนได้บ้างโดยการเลือกทำการตลาด หรือ การโฆษณา นั้นทำได้อย่างหลากหลาย ทั้งแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์ เช่น การยิงแอด Google Ads การทำ SEO การยิงแอด Facebook , tiktok นอกเหนือจากนั้นหากเป็นแบบออฟไลน์ ก็จะมี การส่ง SMS , การโฆษณา สินค้าผ่านป้ายโฆษณาตามจุดต่างๆ เป็นต้น โดยต้องคำนึงว่า โฆษณาแบบไหนที่ดี และ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้
  • ช่วยให้ผู้ซื้อเกิดการพิจารณาและเปรียบเทียบ (Consideration) สำหรับขั้นตอนนี้ คุณสามารถทำโฆษณา เพื่อให้เกิดการพิจารณา หรือ อาจแอบแฝงการเปรียบเทียบเข้าไปด้วย เพื่อให้เกิดการคิดวิเคราะห์ ว่าสินค้าของเรามีความแตกต่างจากคู่แข่งในแบบไหนบ้าง โดยมีหลากหลายวิธี ที่จะกระตุ้นการเปรียบเทียบได้ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ อย่างเช่นคุณขายเครื่องกรองน้ำ แบรนด์อื่นขายเครื่องกรองน้ำแบบ ซื้อแล้วจบแล้ว ไม่มีการดูแลหลังการขาย แต่สามารถเรียกไปดูแล โดยต้องเสียเงินได้ประกัน ก็มีให้เพียง 1 ปี ส่วนแบรนด์ของคุณอาจจะตีตลาดโดยการขายเครื่องกรองน้ำพร้อมบริการหลังการขายแบบจัดเต็ม และ ยังมีทีมงานดูแล ตลอดอีกด้วย เป็นต้น
  • กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ (Decision) โฆษณานั้นเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นความต้องการซื้อได้เป็นอย่างดีห โดยเฉพาะการทำ Retargeting ที่จะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า ที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ของเราแต่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าได้มีโอกาสเห็นโฆษณาที่ช่วยทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้มากขึ้น เช่น การยิงโฆษณาผ่าน Social Media เพื่อให้คนเห็นข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม เป็นต้น

ประเภทของการทำโฆษณา

พวกเราจะขอแบ่ง ประเภทของการทำโฆษณา เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ นั้นก็คือ ทำโฆษณาออนไลน์ และ ทำโฆษณาออฟไลน์ ซึ่งทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันยังไง ไปดูกันเลย

ทำโฆษณาสินค้า Offline

การทำโฆษณาแบบ Offline มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ และ ช่องทางด้วยกันยกตัวอย่างเช่น การโฆษณาบนวิทยุ บนโทรทัศน์ หรือ สื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร ป้ายโฆษณาตามสถานที่ต่างๆ ใบปลิว โบรชัวร์ หรือจะเป็นการออกอีเวนต์ ฯลฯ

ทำโฆษณาสินค้า Online

การทำโฆษณา สินค้า Online ในยุคปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางให้เลือกใช้งานได้ แบ่งเป็นได้หลายอย่าง โดยเลือกให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของเราเข้ามาใช้งานกันอยู่ จะดีที่สุด โดยสำหรับที่ได้รับความนิยมจะมีดังนี้

  • Facebook เป็นการยิงแอดโดยตรง ที่จะทำให้ผู้ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Facebook เห็นโฆษณาของเราได้ง่าย
  • Google Ads เป็นการยิง Ads โดยการใช้ Keyword ที่ลูกค้าค้นหาใน google เข้ามาช่วย โดยเราจะเสียเงินเป็นคลิ้กของลูกค้า
  • Google SEO หรือ Search Engine Optimize เป็นการใช้งาน kmeyword เช่นเดียวกัน แต่หากทำติดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มเป็นคลิกเหมือนการนิง Ads อีกต่อไป
  • Tiktok อีกดแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน โดยปัจจุบัน tiktok เป็นแพลตฟอร์ม e-commerce ที่สามารถลงขายสินค้าได้อีกด้วย

เหล่านี้เป็นแค่เพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งความจริงอาจมีตัวเลือกใหม่ๆพุดขึ้นมา มากขึ้น ก็เป็นได้

อยากทำ SEO ปรึกษา SEOGURU

seoguru 2

หากอยากให้ เว็บไซต์บริษัท หรือ ธุรกิจของคุณ ติดหน้า 1 ในการค้นหาใน google ด้วยการทำ SEO ปรึกษาพวกเราผู้เชี่ยวชาญในด้านการ ทำ SEO สิ ช่วยโฆษณาสินค้าได้อย่างดีที่สุด SEOGURU ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประสบการณ์ด้าน SEO ยาวนานกว่า 10 ปี