SEO is dead ในยุค AI ดิจิทัลยังจำเป็นอยู่มั้ย ? หาคำตอบได้ที่นี่

SEO is dead

SEO is dead ตอนนี้ตายไปแล้วหรอ ยังจำเป็นต่อการทำอันดับอยู่มั้ย ? คำถามที่ใครหลายๆ คนยังสงสัยอยู่ในยุคดิจิทัล จะทำอย่างไร ให้มีคุณภาพตอบโจทย์ทิศทางการทำธุรกิจอย่างไร ในเมื่อเครื่องมือค้นหาต่างๆ ได้ปรับเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในยุคการตลาดออนไลน์ปัจจุบัน และ อนาคตจะต้องรับมืออย่างไร ในอนาคตการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หลายๆ ข้อสงสัยเรามีคำตอบให้คุณที่ SEOGURU

การปรับกลยุทธุ์ให้ทันสมัยตาม Algorithm อัลกอริทึมของ Google โดยจะมีปัจจัยพื้นฐานการทำ SEO คือ ยังเหมือนเดิม หัวใจสำคัญก็คือการ สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ตรงกับคำถามที่ต้องการ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานจะได้รับคะแนนเป็นพิเศษ

SEO is dead ในยุคนี้ตายไปแล้วหรือยัง มาหาคำตอบได้ที่นี่

ความจริงเกี่ยวกับ SEO คุณเคยได้ยินใครพูดไหมว่า SEO มันตายไปแล้ว ซึ่งนักการตลาดหลายคนเข้าใจผิด คิดว่า SEO ไม่สำคัญอีกต่อไป แต่ความจริงคือ SEO ยังคงมีชีวิตอยู่

  • เพราะจริงๆ แล้ว ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การที่ธุรกิจจะมีตัวตนที่แข็งแกร่งบนโลกออนไลน์นั้นสำคัญกว่าที่เคยเป็นมา
  • อย่างไรก็ตาม ภูมิทัศน์ของ SEO ก็เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เคยได้ผลในอดีตอาจใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว
1

ดังนั้น สรุปแล้ว SEO ตายหรือยัง?

คำตอบคือ “ใช่” และ “ไม่ใช่”

ในบทความนี้ 19 เทคนิค SEO ใหม่ [อัปเดตล่าสุด] เราจะมาดูกันว่าทำไม SEO ยังคงมีความสำคัญและมันได้พัฒนาไปอย่างไรบ้างเมื่อเวลาผ่านไป

SEO is dead

ถึงจุดจบของ SEO is dead จริงหรือ?

SEO ตายแล้วหรอ! มาทำความเข้าใจความจริงของโลกการตลาดดิจิทัลในปัจจุบันกัน ทุกวันนี้ นักการตลาดดิจิทัลหลายคนถกเถียงกันว่า SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหา ตายไปแล้ว และพวกเขาได้ชี้ให้เห็นถึงหลายปัจจัยที่สนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้ ทำไมถึงเชื่อว่า SEO is dead กำลังจะตาย?

  • การแข่งขันที่สูงขึ้น ธุรกิจจำนวนมากหันมาลงทุนใน SEO ทำให้การขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหา (SERPs) ของ Google เป็นเรื่องที่ยากขึ้นกว่าเดิม
  • การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม Google พัฒนาอยู่เสมอเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งเว็บไซต์ที่สร้าง เนื้อหาคุณภาพสูง และมอบ ประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้ จะเป็นที่ชื่นชอบของ Google มากกว่า ส่งผลให้ธุรกิจที่ยังคงใช้วิธีการ SEO แบบเก่า ๆ อาจตามคู่แข่งไม่ทัน
  • อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ช่องทางการตลาดดิจิทัลอื่น ๆ เช่น โซเชียลมีเดียได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Twitter ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดคนให้เข้าชมเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา SEO เพียงอย่างเดียว

กล่าวโดยสรุปคือ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้หลายคนมองว่า SEO อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง SEO ไม่ได้ตาย เพียงแต่มัน เปลี่ยนแปลงไป และ ซับซ้อนขึ้น เท่านั้นเองครับ >> สะกิดมา ปรึกษาทางข้อมูล เพิ่มเติมได้

is seo dead

ทำไม SEO ยังคงมีความสำคัญ SEO Is Alive

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า SEO ยังคงสำคัญและมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน แม้จะมีคนบางกลุ่มมองว่ามันได้ล้าสมัยไปแล้ว แต่ข้อมูลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ กลับชี้ให้เห็นตรงกันข้าม

  • แหล่งที่มาหลักของคนเข้าชมเว็บไซต์: การค้นหาแบบทั่วไป หรือที่เรียกว่า Organic Search ยังคงเป็นช่องทางสำคัญที่นำคนเข้าสู่เว็บไซต์ธุรกิจมากมาย ผลสำรวจของ BrightEdge พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม มาจากการค้นหาในช่องทางนี้
  • ปรับตัวให้ทันสมัยเสมอ: กลยุทธ์ SEO ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนไปตามอัลกอริทึมของ Google ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำ SEO ที่ได้ผลในยุคนี้จึงเน้นที่การสร้าง เนื้อหาคุณภาพสูง ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่านและมีคุณค่าจริง ๆ ซึ่งดีกว่าการใช้เทคนิคเก่า ๆ อย่างการยัดคีย์เวิร์ดหรือการสร้างลิงก์ปลอม ๆ
  • ธุรกิจยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่อง: ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงเห็นความสำคัญของ SEO และพร้อมที่จะลงทุนในส่วนนี้ โดยคาดการณ์ว่าในปี 2025 นี้ ยอดการใช้จ่ายด้าน SEO ทั่วโลกจะสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า SEO ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญในโลกของการตลาดดิจิทัล

ทำไม SEO จึงทั้ง ตาย และ ไม่ตาย เพราะ…

ความจริงแล้ว SEO หรือ Search Engine Optimization ไม่ได้ตายสนิท และก็ไม่ได้มีชีวิตที่คงที่ แต่กำลังปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับภาพรวมของการตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป และต้องสร้างสมดุลระหว่าง SEO กับช่องทางการตลาดอื่นๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, การโฆษณาแบบเสียเงิน (Paid Advertising) และการตลาดผ่านอีเมล

  • การมีกลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุมนั้นสำคัญอย่างยิ่ง
  • ธุรกิจที่เน้นแค่ SEO อย่างเดียว อาจพลาดโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางอื่นๆ
  • ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจที่มองข้าม SEO ก็อาจจะสูญเสียแหล่งที่มาของการเข้าชมเว็บไซต์ที่มีคุณค่าไป

สรุปง่ายๆ คือ ธุรกิจควรใช้ทุกช่องทางควบคู่กันไป เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Seo marketing research

ไม่ต้องห่วง SEO is dead ซึ่งมันกำลังเปลี่ยนไปต่างหาก

ถ้าคุณคิดว่า SEO กำลังจะตายล่ะก็ ลองคิดดูใหม่อีกที แม้ว่าโลกดิจิทัลจะเปลี่ยนไปมาก แต่ SEO ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ประสบความสำเร็จได้อยู่ ถ้าอยากจะครองอันดับต้นๆ บนหน้าแสดงผลการค้นหา (SERPs) คุณต้องจำเรื่องต่อไปนี้ให้ขึ้นใจเวลาทำแคมเปญต่างๆ

Google เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งาน

Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน user experience มากกว่าการมีลิงก์ย้อนกลับ backlinks เยอะๆ หรือการยัดคีย์เวิร์ดลงไปในเนื้อหา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหาของเว็บไซต์และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับ ถ้าเว็บไซต์ไหนมีลิงก์ย้อนกลับเป็นพันๆ แต่ผู้ใช้ไม่ชอบ เว็บไซต์นั้นก็จะติดอันดับไม่ดี

อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย

อย่างที่สอง Google ไม่ได้อาศัยข้อมูลของตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองหาข้อมูลจากที่อื่นๆ บนโลกออนไลน์ด้วย เช่น โซเชียลมีเดีย เพื่อปรับปรุงผลการค้นหา ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ก็เพราะว่าทุกวันนี้คนรุ่นใหม่มักจะใช้โซเชียลมีเดียหรือวิดีโอในการค้นหาสิ่งต่างๆ มากขึ้น Google จึงต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

จำนวนการค้นหาที่ระบุชื่อแบรนด์ Branded Search Volume

อย่างที่สาม จำนวนการค้นหาที่ระบุชื่อแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะ Google ชอบแบรนด์ที่มีชื่อเสียง

เมื่อแบรนด์ของคุณเติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการค้นหาด้วยชื่อแบรนด์ (branded keywords) จำนวนการค้นหาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้อันดับของคุณไต่อันดับได้ดีขึ้นด้วย

เน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม Niche Focus

อย่างที่สี่ การมุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มช่วยให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ เว็บไซต์ที่เจาะจงเฉพาะเรื่องมีแนวโน้มที่จะทำได้ดีกว่าเว็บไซต์ที่ครอบคลุมหลายๆ เรื่อง เพราะผู้ใช้ต้องการข้อมูลที่เจาะลึกเฉพาะทางมากกว่าข้อมูลทั่วไป

ความเป็นส่วนตัว Personalization

อย่างที่ห้า ตอนนี้ความเป็นส่วนตัวสำคัญมากขึ้น เราทุกคนไม่เหมือนกันและมีความชอบที่ไม่เหมือนกันเวลาที่เราค้นหาอะไรบางอย่างบนอินเทอร์เน็ต เราต้องการผลการค้นหาที่ปรับให้เข้ากับตำแหน่งที่ตั้งและการค้นหาก่อนหน้าของเรา Google จึงนำสิ่งนี้มาพิจารณาเวลาแสดงผลการค้นหาให้เรา

การให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวจึงช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และช่วยให้อันดับดีขึ้นในระยะยาว

เจตนาของผู้ใช้งาน User Intent

สุดท้าย User search Intent เจตนาของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ คุณต้องตอบสนองสิ่งที่พวกเขาค้นหาให้ตรงจุดด้วยการใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับคำถามของพวกเขา เช่น

  • Transactional (เชิงธุรกรรม): ผู้ใช้มีแผนที่จะซื้อสินค้า
  • Informational (เชิงข้อมูล): ผู้ใช้กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
  • Navigational (เชิงนำทาง): ผู้ใช้กำลังหาหน้าเว็บเพจที่เจาะจง
  • Commercial investigation (เชิงพาณิชย์): ผู้ใช้กำลังพิจารณาตัวเลือกต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ

การทำความเข้าใจเจตนาของผู้ใช้งาน คือหัวใจสำคัญของการสร้างแคมเปญ SEO ที่ประสบความสำเร็จ

Seoguru

สร้างเว็บไซต์ให้ปัง ติดอันดับเร็ว ต้อง SEOGURU เท่านั้น

ในยุคที่การทำเว็บไซต์ ไม่ได้จบแค่สวย แต่ต้อง ติดอันดับ Google ให้คนค้นหาเจอ SEOGURU คือคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับคนที่ต้องการทั้ง ดีไซน์มืออาชีพ และ พลัง SEO ที่ทรงพลัง

  • เพราะเราคือทีมผู้เชี่ยวชาญที่ เข้าใจทั้งการสร้างเว็บและการทำ SEO แบบลึกซึ้ง คุณจึงมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะไม่ใช่แค่ “มีไว้โชว์” แต่จะเป็น เครื่องมือทำเงิน ที่สร้างรายได้จริง!
  • ให้ SEOGURU ดูแลเว็บไซต์ของคุณ อย่าเสี่ยงทำเว็บกับคนที่ไม่เข้าใจ SEO เพราะในโลกออนไลน์ อันดับคือทุกสิ่ง เว็บไซต์สวยแต่ไม่มีคนเจอ ก็เหมือนมีร้านสวยๆ ที่ไม่มีลูกค้า

เลือก SEOGURU วันนี้ คุณจะได้เว็บไซต์ที่ทั้ง สวย โดนใจ ติดอันดับ Google และสร้างรายได้จริง เพราะเป้าหมายของเราไม่ใช่แค่ “ทำเว็บ” แต่คือ ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน