Related Keyword เลิกโฟกัสแค่คำหลัก มาดูคำรองที่ช่วยดันอันดับแบบเนียนๆ

Related Keyword

เวลาเริ่มทำ SEO คนส่วนใหญ่มักถามคำเดิมๆ ว่า “จะหา keyword SEO ยังไงดี?” แล้วก็มักจบด้วยการเลือก “คำหลัก” แค่ไม่กี่คำมาปั้นเต็มที่ ทั้งเขียนหน้าแรก ทั้งลงบทความ ทั้งยิงแอด สุดท้ายทั้งเว็บหมุนอยู่กับคำเดิมซ้ำไปมา แบบนี้บอกเลยว่าเสียของ เพราะในโลกจริง Google ไม่ได้อ่านแค่คีย์เวิร์ดตัวเดียวแล้วตัดสินคุณ แต่ดู “กลุ่มคำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” หรือที่เราเรียกว่า Related Keyword ไปพร้อมกัน

บทความนี้พวกเรา SEOGURU จะชวนมาดูแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า Keyword Related คืออะไร สำคัญแค่ไหน ทำไมคำรองหรือคำที่เกี่ยวข้องถึงมีน้ำหนักไม่แพ้คำหลัก และเวลาเราจะ search keyword หรือวางแผน หา keyword SEO ให้เว็บ ควรมองภาพแบบไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด

Related Keyword คืออะไร ?

Related Keyword คีย์รอง หรือ คำที่เกี่ยวข้องกับคำหลัก

Related Keyword คือ “คำที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก” ในเชิงความหมาย เนื้อหา หรือเจตนาการค้นหา ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะ แต่เดินอยู่ในจักรวาลเดียวกัน เช่น

  • คีย์หลัก: รับทำ SEO Keyword Related อาจเป็น: ทำ SEO เว็บไซต์, หา keyword seo, บริการโปรโมทเว็บ, การทำ on page, off page คืออะไร
  • หรือถ้าคีย์หลักคือ ปลูกผมถาวร Keyword Related อาจเป็น: ผมร่วงทำไงดี, ศัลยกรรมปลูกผมราคา, วิธีดูแลหลังปลูกผม, คลินิกปลูกผมที่ไหนดี

Google จะใช้ภาพรวมทั้งหมดนี้ในการทำความเข้าใจว่า
“หน้าเว็บนี้กำลังพูดเรื่องอะไรจริงๆ”
ไม่ใช่แค่เห็นคีย์หลักตัวเดียวแล้วตัดสินทันที

พูดง่ายๆ คือ ถ้าคีย์หลักคือพระเอก Keyword Related ก็เป็นทั้งเพื่อนพระเอก ตัวละครสมทบ และฉากหลังที่ทำให้เรื่องมันสมบูรณ์ขึ้น

ทำไม Related Keyword สำคัญต่อ SEO มากกว่าที่คิด

หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ “ควรเลือก Keyword ยังไง ให้ติดหน้าแรก?”
คำตอบคือ: มองทั้งคีย์หลักและ Related Keyword ไปพร้อมกัน

เหตุผลที่ Keyword Related สำคัญ

  1. ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาแบบ “ครบเรื่อง”
    หน้าเว็บที่พูดถึงคำหลักแค่คำเดียวซ้ำไปมา แต่ไม่แตะคำที่เกี่ยวข้องเลย มักดูไม่เป็นธรรมชาติและไม่ครอบคลุมประเด็น ในทางกลับกัน ถ้าหน้าหนึ่งพูดครบทั้งปัญหา วิธีแก้ ประโยชน์ ตัวอย่าง เคสจริง โดยมี Keyword Related ปรากฏอยู่ในเนื้อหาอย่างพอดี Google จะมองว่าหน้านั้น “ตอบโจทย์” ในหัวข้อนั้นได้ดีกว่า
  2. เพิ่มโอกาสติดหลายคำในหน้าเดียว
    บางทีเราเขียนบทความด้วยคีย์หลักตัวเดียว แต่พอเวลาผ่านไป กลายเป็นว่าหน้านั้นติดอันดับจาก Keyword Related อื่นๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจแต่ใส่ไว้ในเนื้อหา นี่คือข้อดีของการวาง Related Keyword ให้ดีตั้งแต่แรก
  3. ทำให้คอนเทนต์อ่านเป็น “ภาษาคน” มากขึ้น
    การที่มี คีย์หลัก main keyword ซ้ำไปมาในทุกย่อหน้า นอกจากไม่ช่วยแล้ว ยังทำให้คนอ่านรู้สึกแปลกๆ อีกต่างหาก การใส่ Keyword Related ที่เป็นคำธรรมชาติ เช่น คำถาม คำขยาย หรือภาษาที่ลูกค้าพูดจริง จะทำให้ทั้งคนและบอทอ่านแล้วรู้สึกว่ามัน “สมเหตุสมผล”

อ่านเพิ่มเติม : รู้จัก Long Tail Keyword คีย์เวิร์ดที่เล็กกว่า แต่เข้าถึงเป้าหมายได้ดีกว่า

Keyword Related ใช้ในกรณีไหนบ้าง?

เวลาทำคอนเทนต์หรือวางโครงเว็บ เราจะใช้ Keyword Related แบบจริงจังในสถานการณ์ประมาณนี้

  1. เขียนบทความเชิงอธิบาย / ให้ความรู้
    เช่น บทความอธิบาย “SEO คืออะไร” ถ้าใส่แค่คำว่า SEO ซ้ำๆ อย่างเดียว มันจะบางไป แต่ถ้าเราใส่ kw รองอย่าง หา keyword seo, search keyword, on page seo, off page, backlink, traffic เข้ามาประกอบ เนื้อหาจะดูครบมากขึ้น และเปิดโอกาสติดได้นอกเหนือจากคีย์หลัก
  2. ทำหน้า Landing Page ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
    หน้าเก็บลูกค้า เช่น หน้าบริการ หน้าคอร์ส หน้าขายแพ็กเกจ ถ้ามีแค่ข้อความขายสั้นๆ จะดูไม่มีน้ำหนัก การเล่าเสริมด้วยคำที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญหาของลูกค้า ประโยชน์ วิธีทำงาน ขั้นตอน ซึ่งมี Keyword Related ปรากฏอยู่ จะช่วยให้หน้า “แน่น” ขึ้น ทั้งเชิงคอนเทนต์และเชิง SEO
  3. วางกลยุทธ์คอนเทนต์ทั้งเว็บ
    เวลา SEOGURU ทำแผน หา keyword SEO ให้ลูกค้า เราจะดู Keyword Related เป็นชุด แล้วจัดว่า
    – คำไหนควรอยู่ในหน้าเดียวกัน
    – คำไหนควรแตกไปเป็นบทความแยก
    – คำไหนเอาไว้ใช้เป็นหัวข้อย่อยในหน้าใหญ่

ทำให้ในระดับเว็บ จะไม่ได้มีแค่คำหลักโดดๆ แต่มีเครือข่ายของคีย์ที่เกี่ยวข้องกันรองรับอยู่

หา Related Keyword ยังไง เวลาจะ search keyword

คำถามที่โดนถามบ่อยมากคือ “เวลาจะหา keyword SEO หรือหา Keyword Related ใช้อะไรช่วยดี?”

วิธีหา Related Keyword แบบง่ายและ ฟรี

หลักๆ ที่ใช้ได้จริง มีประมาณนี้

  1. ใช้ Google เองนี่แหละ
    พิมพ์คีย์หลักลง Google แล้วดู
    – Suggestion ที่ขึ้นระหว่างพิมพ์
    – ช่อง “การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ…” ด้านล่างสุดของหน้า
    คำเหล่านี้คือ Keyword Related ที่คนค้นจริงในชีวิตประจำวัน
  2. ใช้ Tools หา keyword seo
    จะเป็นเครื่องมือสายฟรีหรือเสียเงินก็ได้ หลักการคือดูชุด search keyword ที่เกี่ยวข้องกับคำหลัก เช่น
    – กลุ่มคำถาม (how, ทำยังไง, ที่ไหนดี, ราคา)
    – กลุ่มคำเฉพาะกลุ่ม (SME, ออนไลน์, ใกล้ฉัน, กรุงเทพ ฯลฯ)
    จากนั้นคัด Keyword Related ที่ตรงกับธุรกิจและคอนเทนต์ที่เราจะทำ
  3. ใช้ข้อมูลจาก Search Console
    ถ้าเว็บคุณทำมาสักพักแล้ว ลองเข้าไปดูใน Google Search Console ว่ามีคำไหนที่คนค้นแล้วเข้ามาหน้านั้นบ้าง บางทีคุณจะเจอ Keyword Related ดีๆ ที่ไม่เคยคิดเองมาก่อน แต่คนค้นจริง แล้วก็ใช้โอกาสนั้นไปเสริมเนื้อหาให้ตอบโจทย์คำเหล่านั้นมากขึ้น

วาง Related Keyword ในหน้าเว็บยังไงให้เนียน

หลักง่ายๆ คือ ไม่ต้องไปนับว่าคำนี้ต้องใส่กี่ครั้ง แต่ให้คิดแบบ “โครงเรื่อง” มากกว่า เช่น

  • หัวข้อหลัก ใช้คีย์หลัก
  • หัวข้อย่อย แทรก Keyword Related ที่เกี่ยวข้อง
  • เนื้อหาในย่อหน้าใช้ทั้งคีย์หลักและคำรองสลับไปมาแบบธรรมชาติ
  • Meta Description อาจใส่ทั้งคีย์หลักและคำที่เกี่ยวข้องบางส่วน

อย่าลืมว่าเป้าหมายคือให้คนอ่าน “เข้าใจเรื่อง” แล้ว Google จะเข้าใจตาม ไม่ใช่คิดจะเอาใจ Google แล้วลืมคนอ่าน

SEOGURU มอง Keyword Related ยังไงเวลาออกแบบ SEO

เวลาเราทำแผนให้ลูกค้า เราไม่ได้ส่ง list keyword แค่คีย์เดียวจบ แต่จะมีทั้ง

  • คีย์หลัก (ใช้กับหน้าใหญ่/หน้าแรก)
  • Keyword Related(ใช้ในคอนเทนต์และหัวข้อย่อย)
  • คีย์ย่อย/คำยาว (ใช้กับบทความเฉพาะเรื่อง)

เรามอง Keyword Related เป็นโครงสร้างเสริมที่ช่วยให้ทั้งเว็บดู “มีความหมาย” ในสายตา Google มากขึ้น และช่วยให้คอนเทนต์ของคุณตอบคำถามลูกค้าได้หลายมิติมากขึ้นด้วย

บทสรุป Related Keyword ตัวประกอบที่ขาดไม่ได้

ถ้าถามว่า Keyword Related สำคัญไหม คำตอบง่ายๆ คือ ถ้าไม่มีคำที่เกี่ยวข้อง คอนเทนต์คุณก็จะบาง และ SEO คุณก็จะดูเหมือนเว็บที่โฟกัสแต่คำเดียวแบบทื่อๆ

Keyword Related ช่วยให้คุณ

  • ขยายมุมมองของเนื้อหา
  • ติดอันดับได้หลายคำในหน้าเดียว
  • สื่อสารกับคนอ่านได้ครบกว่า
  • ทำให้การ หา keyword seo และ search keyword มีทิศทางมากขึ้น

สุดท้าย เวลาเลือกคีย์ ไม่ต้องคิดแค่ว่า “คำไหนคือคำหลักคำเดียวของฉัน” แต่คิดเพิ่มด้วยว่า “คำไหนบ้างคือคำที่คนใช้พูดถึงเรื่องนี้” แล้วเอา Related Keyword เหล่านั้นมาเรียงเป็นเรื่อง ติดต่อพวกเรา SEOGURU เพื่อช่วยคุณวางทั้งหมดให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคำที่คนค้น มีโอกาสพาเขามาเจอธุรกิจคุณบน Google ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้