ในยุคที่การค้นหาข้อมูลออนไลน์เป็นเรื่องปกติ การที่ธุรกิจของคุณปรากฏในผลการค้นหาเฉพาะท้องถิ่นบน Google มีความสำคัญมาก Local SEO (Local Search Engine Optimization) คือการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ปรากฏในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เพื่อดึงดูดลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงให้เข้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากคุณ เรียกว่าเป็นการทำให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ได้ดีกว่า การทำ SEO แบบปกติ โลคอล SEO เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการดึงดูดลูกค้าในพื้นที่ที่มีสถานที่ตั้งจริง
อย่างจำพวก ร้านอาหาร ร้านค้า หรือบริการต่างๆ เพราะเมื่อผู้คนค้นหาบริการหรือสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง ธุรกิจของคุณควรจะปรากฏเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่พวกเขาเห็น เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถติดอันดับผลการค้นหาบน Google ได้ มีหลายวิธีที่สามารถทำได้ แต่จะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้างที่คนทำธุรกิจควรรู้ และการทำ Local SEO จะส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณจริงหรือไม่ วันนี้ SEOGURU มีคำตอบมาให้คุณ เราจะเจาะลึกทุกขั้นตอนของการทำแบบที่มีประสิทธิภาพและรายละเอียด ดังนี้
Local SEO คืออะไร
โลคอล SEO เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการทำการตลาดในอีกรูปแบบ เหมาะกับธุรกิจท้องถิ่น โดยจะใช้หลักการ SEO โดยใช้ Keyword มาทำให้การค้นหาเฉพาะพื้นที่มีธุรกิจของคุณอยู่หน้าแรก แน่นอนว่าเหมาะกับธุรกิจที่ไม่ได้งบมากมาย มือใหม่ก็สามารถทำได้ด้วยตนเองแบบไม่ต้องจ้างนักการตลาดก็ได้ กลยุทธ์นี้จะเป็นการลดคู่แข่งของการทำธุรกิจประเภทเดียวกัน และอยู่บริเวณใกล้เคียงกันออกไปได้ หรือจะนำเอาภาษาท้องถิ่นมาใช้เป็น คำค้นหา ก็ได้เช่นเดียวกัน
เราจะมายกตัวอย่างแบบให้คุณเข้าใจกันง่ายๆคือ ถ้าหากคุณมีร้านกาแฟ ซึ่งตอนนี้ถือเป็นธุรกิจที่มีคนเปิดเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเปิดง่าย ลงทุนไม่เยอะ วัตถุดิบก็ไม่เน่าเสีย และกำไรจากเครื่องดื่มก็อยู่ราวๆ 50-40% ได้ แน่นอนว่าคุณจะต้องมีคู่แข่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันเยอะพอสมควร การจะใช้ keyword แค่คำว่า คาเฟ่ อย่างเดียว คงไม่ทำให้ลูกค้าเลือกมาร้านของคุณหรอกใช่มั้ย
เพราะฉะนั้น การที่คุณเติมคำที่เป็นชื่อสถานที่ลงไปใน keyword อย่างเช่น คาเฟ่ สยามสแควร์ หรือ คาเฟ่ สยามสแควร์ ซอย2 นี่คือวิธีที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเจอร้านของคุณได้ง่ายขึ้น ยิ่งหากเป็นร้านที่ตั้งอยู่ต่างจังหวัด มีภาษาท้องถิ่น และเลือกใช้คำเฉพาะก็จะยิ่งค้นหาเจอร้านของคุณได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนนี้จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณติดหน้าแรกของ Google ได้มากกว่าการเลือกใช้ คีย์เวิร์ด อื่นๆ ที่มี Volume สูง ซึ่งจะทำให้การทำอันดับระยะยาวของคุณใช้เวลานานกว่า
5 แนวคิดการทำ Local SEO
- ให้คิดเสียว่าเป็นอีกวิธีของการทำ Longtail Keyword และคุณต้องให้ความสำคัญมากๆ ไม่ว่า Keyword ที่ทำจะมีการค้นหาที่น้อยมากก็ตาม ก็ควรตามเก็บและทำ On-page ให้ครบทุกการค้นหา
- ไม่ควรทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากกว่า คุณควรทำทั้งบนเว็บไซต์และบน Google My Business ไปพร้อมๆกัน
- คุณต้องคอยดูคู่แข่งของธุรกิจว่าพวกเขาใช้กลยุทธ์ใดที่ทำให้อันดับติดดีขึ้น และนำมาปรับปรุงทั้งบนเว็บไซต์และ กูเกิ้ล มาย บิสเนส เพิ่มเติม เพื่อจะช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ถ้าหากว่าธุรกิจของคุณสามารถส่งสินค้าหรือให้บริการได้ครอบคลุมถึงในพื้นที่อื่นๆ ให้ท่านทำ On-Page เก็บ Longtail Keyword ในพื้นที่นั้นๆด้วย
- แต่ SEOGURU ขอแนะนำให้ท่านทำอันดับให้ติดในพื้นที่ที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ก่อน และหลังจากที่อันดับดีแล้ว ค่อยไปยังพื้นที่อื่นนอกเหนือ เพราะถ้าหากลูกค้าในพื้นที่ค้นหาธุรกิจของคุณเจอก่อนแบบยิ่งมีโอกาสได้เข้ามาใช้งานจริง แล้วค่อยทำให้ GMB ติดอันดับในพื้นที่อื่นทีหลัง
ธุรกิจแบบไหนที่ควรทำ
กลยุทธ์ Local SEO เหมาะกับทุกธุรกิจที่มีสถานที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง หมายถึงว่ามีหน้าร้านที่ชัดเจน ลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการได้ทุกครั้งตามเวลาเปิด-ปิด จะเป็นธุรกิจทั่วไป หรือธุรกิจ SMEs เช่น ร้านซาลอน ร้านนวด ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านสปา คลินิกรักษาสัตว์ คลินิกเสริมความงาม รวมไปถึงร้านค้าท้องถิ่น ที่อยู่ระดับ เขต ตำบล อำเภอ หรือจังหวัด ขอแค่มีโลเคชั่นที่เป็นที่ตั้งของธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อเป็นตัวช่วยในการค้นหาผ่าน Search Engine
การแสดงผลลัพธ์ในการค้นหาของ Local SEO บน Google โดยจะมีจะมีทั้งหมด 2 แบบ คือ
- Organic Search Result จะแสดงผลลัพธ์หน้าเว็บไซต์ที่ทำ SEO จนติดหน้าแรกของ Google
- Local Pack จะเป็นการแสดงข้อมูลจากที่ตั้งของธุรกิจบน Google Map ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือปั๊มน้ำมัน การแสดงข้อมูลอันนี้จะใช้คะแนนที่ได้รับรีวิวบน Google Map ธุรกิจไหนที่ได้ 4- 5 ดาว อย่างต่อเนื่อง จะติดอันดับที่ดีของ Google
ขั้นตอนการทำ Local SEO
- อัพเดทข้อมูลบน Google My Business ให้สมบูรณ์
การลงทะเบียนธุรกิจของคุณบน Google My Business เป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุด นี่คือพื้นที่ที่คุณสามารถนำเสนอธุรกิจของคุณอย่างเต็มที่ ใส่รายละเอียดให้ครบทุกอย่าง อัพเดทข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เช่น ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ และเว็บไซต์ อัปโหลดรูปภาพที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจคุณ รูปภาพที่มีความสดใสจะดึงดูดให้ลูกค้าสนใจในธุรกิจของคุณมากขึ้น และเพิ่มรีวิวจากลูกค้าที่พึงพอใจ การมีรีวิวดี ๆ จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้ที่เข้ามาเห็น
หากคุณยังไม่มี GMB สามารถเข้าไปดูวิธีในการทำได้ที่นี่
- ใช้ Keyword ที่บ่งบอกถึงสไตล์ของธุรกิจ
การใช้ Longtail Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ คำสำคัญเหล่านี้ควรสะท้อนถึงตัวตนและความเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจคุณ ใช้คำสำคัญที่เจาะจงท้องถิ่นในเนื้อหาของคุณ เช่น “ร้านเบเกอรี่โฮมเมดในเชียงใหม่” หรือ “บริการซ่อมจักรยานในกรุงเทพ” วิธีการหาแนะนำให้ใช้เครื่องมือ SEO Keyword Research ที่จะช่วยเช่น Google Keyword Planner ใส่คำสำคัญเหล่านี้ใน Title, Meta Description และในเนื้อหา รวมไปถึงแท็กต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ
- สร้าง Backlink ที่มีคุณภาพ
การมี Backlink จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือในพื้นที่เดียวกันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและอันดับของเว็บไซต์ของคุณ ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ท้องถิ่นหรือบล็อกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อขอความร่วมมือในการแลกลิงก์หรือเขียนบทความรีวิว สร้างเนื้อหาที่มีความจริงใจ เพื่อเป็นการแบ่งปันบนโซเชียลมีเดีย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlink
- ทำ Social Media Marketing
ใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter ฯลฯ เพื่อโปรโมทธุรกิจของคุณสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมติดตามลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย และตอบคำถาม แก้ไขปัญหา อย่างรวดเร็ว
สรุป
การทำ โลคอล SEO ไม่ได้เป็นเพียงการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหา แต่เป็นการสร้างความประทับใจและความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้าในพื้นที่ ความใส่ใจในรายละเอียด การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า การมีรีวิวที่ดี และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล หากท่านอยากให้มืออาชีพมาจัดการเรื่องนี้ให้ SEOGURU ยินดีให้บริการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ LINE ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย