Semantic SEO คืออะไร ช่วยเพิ่มอันดับของเว็บไซต์อย่างไร

Semantic SEO คืออะไร

Semantic SEO เทคนิคการทำ SEO ที่กำลังมาแรงที่สุดวิธีหนึ่งในปี 2024 เนื่องจากเป็นวิธีที่จะทำให้อันดับของเว็บไซต์ของคุณทะยานขึ้นไปอยู่ในอันดับแรกๆของ Google โดยใช้วิธีง่ายๆที่มีพื้นฐานเกี่ยวกับการ เอสอีโอ แบบพื้นฐาน เพียงเท่านี้อันดับเว็บไซต์ของคุณก็จะขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆของ Search Engine ได้อย่างง่ายดาย

Semantic SEO คืออะไร

Semantic SEO คือ

Semantic SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้ตรงตามความต้องการของ Search Engine รวมถึงในส่วนของเนื้อหน้าเว็บไซต์ การวัดวาง การทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง มีประโยชน์ รวมถึงปัจจัยต่างๆมีความสอดคล้องกัน ทำให้ผู้ที่เข้ามายังเว็บไซต์ได้ประโยชน์กลับไป ไม่ได้มุ่งเน้นการทำคอนเทนต์ที่เน้นการทำคีย์เวิร์ดซ้ำๆ มีการทำคอนเทนต์แบบเดิมๆ

การทำเอสอีโอด้วย SemanticSEO นอกจากจะได้คะแนนจาก Google การที่ผู้ใช้งานเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณเป็นเวลานาน และใช้เวลาอยู่กับเว็บไซต์ของคุณจริงๆ จะช่วยเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมาก และส่งผลให้อันดับเว็บไซต์ของคุณทะยานขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆของการค้นหา

Semantic SEO สำคัญยังไง

Semantic SEO สำคัญยังไง

แน่นอนว่าการทำ Semantic เอสอีโอ จะช่วยทำให้อันดับของเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น ดังนั้นหากต้องการให้เว็บไซต์มีจำนวนผู้เข้าชมที่มากขึ้น มีรายได้ที่มากขึ้น ทำไมการ SemanticSEO จึงสำคัญกับการทำเว็บไซต์ของคุณ

  • การแข่งขันที่มากขึ้น เนื่องจากในทุกวันมีธุรกิจใหม่ที่เติบโตอยู่ตลอด รวมถึงคู่แข่งของคุณด้วยเช่นกัน
  • ในปัจจุบัน Search Engine ถูกพัฒนาให้มีความฉลาดกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ Google Algorithm เข้าใจเนื้อหาและความหมายของคอนเทนต์ต่างๆ เข้าใจรายละเอียดแต่ละเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น
  • ความซับซ้อนในการค้นหาที่มากขึ้น มีการตั้งคำถามที่มากขึ้น การปรับเปลี่ยนวิธีการทำเว็บไซต์และคอนเทนต์ จึงต้องอัพเดทสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
  • Generative AI มีบทบาทมากยิ่งขึ้น ChatGPT, Gemini ฯลฯ ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องและอาจจะทำอะไรได้หลายอย่างกว่าในตอนนี้ ดังนั้นการทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด

SemanticSEO ทำให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้นได้อย่างไร

วิธีการทำ Semantic SEO

ทำให้ Bot ของ Google เข้าใจเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนในการทำ SemanticSEO จะเน้นการทำ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณเป็นหลัก ดังนั้นในเมื่อทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน บทของกูเกิ้ลจะเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังสามารถจัดอันดับของเว็บไซต์ของคุณให้อยู่ในลำดับต้นๆนั่นเอง

ทำให้เว็บไซต์มี Authority เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อเว็บไซต์มีความเกี่ยวข้อง เนื้อหา คอนเทนต์ คีย์เวิร์ด ไปในแนวทางเดียวกัน Search Engine จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณมีประโยชน์ มีความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้เว็บไซต์มีค่า Authority ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงยังอาจถูก References ให้เว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลได้อีกด้วย

ทำให้เว็บไซต์มี Engagement ที่มากขึ้น

การที่เว็บไซต์มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีเนื้อหาและคอนเทนต์ไปในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลให้ Engagement มีค่าที่มากเช่น รวมถึงยังทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์เป็นเวลานาน , ผู้ใช้คลิกไปอ่านเนื้อหาในหน้าอื่นๆต่อ เมื่อเว็บไซต์มีค่า Traffic ที่มากขึ้น ก็ส่งผลให้อันดับของเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น

วิธีการทำ SemanticSEO มีขั้นตอนอะไรบ้าง

Semantic SEO

ปรับเปลี่ยนการทำบทความหรือคอนเทนต์

เริ่มต้นจากการทำบทความหรือคอนเทนต์ต่างๆ  ด้วยการแยกหัวข้อของคอนเทนต์หรือบทความเป็นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์หลักของบทความนั้นๆ ต่อด้วยการทำ Internal Link ไปยังบทความต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกัน

    ตัวอย่างเช่น หากคุณทำคีย์เวิร์ดหลัก รองเท้าฟุตบอล สิ่งที่จะต้องหามาเพิ่มในบทความนั่นคือรีเรทของคำหลัก ( LSI Keywords ) ด้วยการกระจายเป็นหัวข้อย่อยต่างๆเช่น รองเท้าฟุตบอล สำหรับสนามหญ้า แบบไหนดี , รองเท้าฟุตบอลยี่ห้อไหนดี  จากนั้นทำการเชื่อมต่อไปยังบทความที่เกี่ยวข้องเช่น รวมรองเท้าฟุตบอลยอดฮิตในปี 2024

    ค้นหา Search Volume เพิ่มคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์หลัก

    การใช้ SEO Tools เพื่อค้นหา Search Volume ด้วยการหา LSI Keyword ไม่ว่าจะเป็นคำค้นหาที่ใกล้เคียง , คำค้นหาที่เพี้ยน , การนำคีย์เวิร์เหล่านี้มาเพิ่มในบทความจะช่วยทำให้ครอบคลุมการค้นหามากยิ่งขึ้น

    แก้ไขบทความให้มีความยาวที่มากขึ้นและละเอียดมากขึ้น

    สิ่งๆหลักของการทำ SemanticSEO คือการทำให้เว็บไซต์หรือบทความมีข้อมูลในเชิงลึก ที่เจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้กูเกิ้ลมองว่าเว็บไซต์ของเรามีประโยชน์ ดังนั้นการทำบทความจะต้องมีความละเอียดที่มากขึ้น บทความที่ออกมาจึงต้องมีเนื้อหาที่มากขึ้น รวมถึงการใส่แหล่งอ้างอิงของข้อมูลที่เชื่อถือได้ จะยิ่งทำให้กูเกิ้ลมองว่าเว็บไซต์ของคุณมีค่า EEAT Factors ที่ครบถ้วน

    เพิ่มคำถามที่พบบ่อย

    ปัจจุบันการค้นหาด้วยประโยคคำถาม เป็นคำถามที่ค้นหาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการทำบทความที่มี FAQ หรือ Q&A เพื่อถามและตอบจะช่วยทำให้ผู้ค้นหาได้ข้อมูลจากสิ่งที่ต้องการมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญจะต้องถามและตอบให้เข้าใจและกระชับมากที่สุด

    ปรับ Structured Data

    การปรับโคร้งสร้าง Off Page ในส่วนของขั้นตอนตอนี้ อาจเป็นขั้นตอนของ SEOGURU แต่หากคุณมีความเชี่ยวชวญมากพอละก็ จะช่วยทำให้บอทของกูเกิ้ล เข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น เช่นการทำ Schema Markup โค้ดที่จะทำให้บอทเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น เมื่อ Search Engine เข้าใจ จะช่วยทำให้อันดับของเว็บไซต์ของคุณเพิ่มสูงขึ้น

    สรุป

    การทำ Semantic SEO ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่เพิ่มขึ้นได้ แต่การปรับโครงสร้างต่างๆ แต่การแก้ On Page SEO , Off Page SEO รวมถึงการเพิ่มรีเรทของ Keyword ไปในทิศทางเดียวกัน เพิ่มเนื้อหาให้ลึกละเอียดยิ่งขึ้น จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น หากทำอย่างต่อเนื่องอาจช่วยส่งผลให้อันดับของเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 ของการค้นหาได้เช่นกัน