SEO Content เขียนยังไงถึงจะติดอันดับแบบยาวนาน

SEO Content

ก่อนหน้านี่เราได้รู้กันดีแล้วสำหรับ โฆษณาสินค้า อย่าไรเพื่อให้กระตุ้นความต้องการของลูกค้า ซึ่งวันนี้เราจะมาต่อไปกับ SEO Content ก็เป็นหนึ่งในการจัดอันดับอย่างดีซึ่งนับเป็นคู่มือในการสร้างเป้าหมาย ที่จะเข้ามาทำอันดับติด Google ไม่ใช่เพียงทำเว็บสวยๆ ออกแบบดีไซน์ดีๆ ก็จะถูกใจในการ จัดอันดับ กูเกิ้ล กันแล้ว ดังนั้นการที่จะต้องเพิ่งพาในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ โดยจะมีกลยุทธ์อะไรมานำเสนอ ทริกดีๆ ในการเขียนบทความติดอันดับมาหน้าแรก

เทคนิคการหา Keyword Research คีย์เวิร์ดอย่างไร ให้ติดอันดับับ Google โดยทางทีมงาน SEOGURU ขออาสาแนะนำกันได้ในบทความนี้!

สำหรับ seoguru นั้นได้รวบรวม เคล็คลับการทำ SEO ที่จะเข้ามาทำให้คุณเข้ามาร่วมสนุก นับเป็นสิ่งสำคัญอย่าง วิธีการเขียน SEO 2024 ใหม่ล่าสุด บอกเล่าหมดเปลือกกันแบบไม่มีกั๊ก เผื่อบางท่านที่จะนำไปประยุกต์ในการเขียนบทความ Content Writer เราก็หวังว่าจำนำไปใช้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย เอาละหากพร้อมกันแล้ว เรามาเริ่มต้นกันไปเลยสำหรับ วิธีการเขียนบทความ ยังไงให้ยั่งยืนยาวนาน ถูกหลักกันเลยฮับ !

SEO คืออะไร! สำหรับอย่างไรกับการทำอันดับ Google ?

SEO คืออะไร

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือ การกำหนดเป้าหมายหลักเพื่อให้ติดอันดับการอันดับ โดยนำสิ่งหนึ่งเข้ามาก็คือ เนื้อหาอย่างไรให้สอดคล้องไปกับการทำอันดับด้วยหา Search Engine แล้วที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีเนื้อหา SEO Content หรือ บทความ SEO ควบคู่กันกับการทำ On Page SEO ก็จะส่งผลให้ถูกใจในการจัดอันดับ เชื่อกันเลยในการตำแหน่งสูงและส่งผลต่อการทำ Traffic ให้เว็บไซต์ของเรามีอันดับสูงตามไปด้วย

เว็บที่มีคุณภาพนอกจากการทำ On Page SEO การทำเนื้อหา บทความ Content SEO แล้วอยากให้มีการเพิ่มพลังอันดับมาแรงมากยิ่งขึ้นก็อยากจะเข้ามาตอบโจทย์อีกหนึ่งจัดเต็มให้คุณขึ้นแล้ว ก็ยังเข้ามาช่วยให้เว็บมาไวขึ้นอีกหนึ่งก็คือ Backlink SEO เข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้เลย

เปรียบเทียบระหว่างบทความ SEO Content กับ บทความทั่วไป มีความแตกต่างกัน ?

สิ่งที่ seo content ต้องมี

เขียนบทความ SEO Content

วิธีการเขียน SEO จะเป็นการเข้าถึงการทำตลาดออนไลน์อย่างศิลป์ เพื่อที่จะให้บทความ จะเหมือนกันกับ >> กลยุทธ์ในการ เขียนบทความ seo อย่างไรให้ติดอันดับ google โดยที่มีโอกาสถูกค้นหาบนหน้าจอ Search Engine Results Page (SERP) หรือก็คือบนหน้าของ Google ได้มากขึ้น แน่นอนว่าการทำให้ติดอันดับดีๆ นั้นจะต้องมี Traffic , On-Page , Backlink รวบรวมไปให้ถูกการสร้าง Conversion อย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่เพียงเขียนเพื่อให้ผู้อ่านตอบโจทย์ แล้วแต่ก็ยังเพื่อให้ถูกใจ Bot ด้วยเช่นกัน เข้ามาสอบตรวจ ตรวจสอบหน้าเว็บ นำไปจัดอันดับ

โดยบทความที่ดีนั้นจะต้องเขียนเนื้อหาให้ตรงกับการเขียน SEO ให้ดีตามเกณฑ์แล้วต้องเขียนตามหลัก EAT Factor คืออะไร นับเป็นสิ่งที่เหล่าเขียนจำเป็นต้องรู้..!

เขียนบทความทั่วไป

การเขียนบทความปกติทั่วไป นั้น จะเป็นเพื่อเขียนให้ตอบโจทย์ในการค้นหาข้อมูลบ้างอย่าง ไลฟ์โค้ช สร้างแรงบันดาลใจ ให้ข้อมูล ตอบสนองความสนใจ เพื่อให้ คนทั่วไปรู้จักแบรนด์ของตัวเอง โดยจะมักเห็นการเขียนอยู่บ่อยๆ ในการทำ Brand Communication ตามหลักโซเชียลตามสื่อมีเดียต่างๆ ซึ่งจะถูกอ้างอิงมาให้กับผู้อ่านได้สื่อสารได้รู้จัก

ดังนั้นหากเป็นนักเขียนคนหนึ่งแล้ว กำลังจะพาทุกท่านเข้ามาค้นหาแบบก้าวกระโดดอย่างพุ่งทะยานไปยัง อันดับ 1 แนะนำติดอันดับบนหน้าเว็บ Google นั้นอยากจะเข้ามาแนะนำให้ทดลองอ่าน วิธีการทำ SEO ยังไง SEO คืออะไร เราได้เขียนทุกอย่างที่จะต้องรู้ตามหลักการทำอันดับ SEO

7 ทริกหลักของการทำอันดับให้ถูกหลัก SEO Content ทำยังไง

7 เทคนิค หลักการเขียนบทความ SEO

1 ต้องมี Keyword ในจำนวนที่เหมาะสม

Keyword คือ คำหรือวลีในการค้นหาที่ต้องการ ที่ได้รวบรวมมาจาก Search Engine การใส่ Keyword ในโปรแกรมที่ค้นหายอดนิยมซึ่งนั้นก็คือ GOOGLE นั้นยังมีการสื่อไปถือ การทำอันดับดันบทความตามคุณภาพขึ้นมาได้ง่ายๆ แต่ว่าไปก็จริงหรือเพราะช่วงนี้มีแต่เว็บนามสกุล .ORG , .co.th เว็บองค์กรขึ้นมากันเพียบ!

นอกจากการค้นหาแล้ว ก็ยังมีปัจจัยสำคัญเข้าเขียนบทความได้จาก Keyword แล้วก็ยังมี 3 ปัจจัย มาให้เลือกเล่นดังนี้

  1. Search Volume ของ Keyword  คือ การคำหาคำหลัก ในแต่ละเดือน วึ่งจะเป็นคำจะถูกรวบรวมเอาไว้ในโปรแกรม ซึ่งทำให้เลือกใช้เป็นในการวางเดิมพันการทำ seo โดยจะมีเป็น Long Tail Keyword และ LSI Keyword เพื่อเพิ่มในการค้นหาระดับตํ่ากว่า KW หลัก แต่จะเป็นที่ยาวกว่า
  2. คีย์เวิร์ด ในการทำธุรกิจ โดยจะเป็นสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ในการทำเอามาทำการตลาด ซึ่งคำเหล่านี้นั้นจะเป็นคียยกตัวอย่างเช่นการทำธุรกิจ ขายกระเป๋า คียเวิร์ดที่เกี่ยวข้องก็จะเป็น กระเป๋าผู้ชาย , กระเป๋าผู้หญิง ฯลฯ
  3. Key word ที่มาจาก ผู้ใช้งานจริง โดยจะเลือกจากการเขียนมาจากผู้ใช้งาน นับเป็นสิ่งที่ผิดแปลก บางคำก็จะมาจากคำผิด ซึ่งจะมีปริมาณในการค้นหา โดยจะนิยมเอามาเขียนเอาไว้ในบทความ

โดยเครื่องมือที่มาช่วยในการทำบทความ SEO Content ได้รวบรวมจากโปรแกรมยอดนิยม 5 เครื่องมือได้แก่

  1. Google Keyword Planner
  2. Google Trends
  3. Ubersuggest (ฟรี แอดจะเรียกโปรแกรมหัวล้าน)
  4. Keyword Tool
  5. Ahrefs Keyword Explorer

2 เลือกใส่ Keyword ในปริมาณที่เหมาะสมในบทความ

%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87 title description

การใส่ชื่อ Title และ Description  ก็เป็นสิ่งแรกที่เหล่าผู้คนนั้นแสดงเห็นเป็นอันดับแรกในการค้นหา โดยมีแรงดึงดูดอย่างน่าสนใจ ซึ่งในความยาวของ Title จะต้องมีความยาวไม่เกิน 50-60 ส่วนทาง Description ควรมีความยาวไม่เกิน 150 – 154 ตัวอักษร สำหรับวิธีการที่จะเข้ามาเขียนอย่างไรให้ถูกหลัก Meta Description เขียนแบบไหน เข้ามาผ่านดูเพิ่มเติมได้ที่

ขอแนะนำ : Title คือ Description คืออะไร เขียนแบบไหนให้ถูกหลัก SEO << อ่านเพิ่มเติมได้เลย

ตำแหน่งที่ควรมี Keyword นำมาใช้งานจะต้องอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งทางเว็บที่ทำให้มีติดอันดับต่างๆ นั้นจะมีอยู่ได้แก่

  • Title และ Description
  • URL
  • วางคียใน 100 คำแรกของบทความ
  • ใส่ในหัวข้อ H1, H2, H3, H4, ….

ในตำแหน่งการใส่คีย์เวิร์ด โดยจะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยจะดูจาก Rank Math ตามค่าที่เหมาะสมเป็นแนวทาง Keyword Density ซึ่งอยากจะได้คะแนนดีๆ นั้นจะต้องคิดกระจายคำ ซึ่งจะคิดออกมาเป็น % ในจำนวนการเขียนบทความทั้งหมด

3 กำหนด URL ให้มี คีย์เวิร์ด และเข้าใจง่าย

การใส่ Keyword  เข้าไปใน URL มีให้เลือกระหว่างจะใส่แบบ ภาษาอังกฤษ กับ ภาษาไทย ซึ่งการใช้ภาษาไทย นั้นก็จะอันดับมาดีกว่า แต่ว่าการเลือกไทยนั้นก็ยังมีข้อเสียกันอยู่เพราะ ตัว URL นั้นก็จะยาว เหมือนกับ ลิงค์สแปม เวลาแชร์ไปยังลิงค์โซเชียล นั้นก็ทำให้รู้สึกไม่อยากจะกด

4 กระจาย Keyword ลงในเนื้อหา SEO Content

นักเขียน SEOGURU เองก็จะนิยมกดปุ่ม Ctrl + F เพื่อค้นหาดูทั้งบทความ ว่ามีการใส่ Keyword ตรงจุดไหนกันบ้าง กระจ่ายหรือไม่ตามลิงค์ Rank Math หรือจะเป็น Yoast SEO โดยดูจากค่า Density นั้นเอง

5 การเรียงหัวข้อความสำคัญของ HTML นั้นก็คือ Heading

Google Bard SEO title

การให้ความสำคัญตามหลักของการเขียน Heading Tag คือ HTML Tag หรือหัวข้อต่างๆ จะมีการเรียงลำดับ โดยจะมีการเรียงตามลำดับหัวข้อใหญ่ H1 ไปถึงลำดับ H2 , H3 , H4 , H5 ไปเรื่อยๆ ที่สำคัญอย่าลืมใส่คียไปด้วยนะครับ และทำให้เป็นธรรมชาติ

6 ใส่ชื่อภาพ โดยการกำหนด ALT Text ให้รูปภาพ

การใส่อังประกอบให้กับรูปภาพก็คือหนึ่งในส่วนของการทำ SEO นั้นก็คือ ควรมีคีย์เวิร์ดในชื่อรูป เมื่ออัปโหลดขึ้นไปแล้ว ให้ทำการใส่ ALT Text ไปยังคำอธิบายของภาพ ในการทำ Keyword เพื่อให้ไปยังการติดอันดับในการค้นหา Search บน Google Image  นั้นเอง

7 เขียนบทความคุณภาพตามหลักที่ Google อย่างผู้เชี่ยวชาญ

การเขียนบทความจะเน้นเนื้อหาที่สดใหม่ ไม่คัดลอกของคนอื่น และต้องเขียนอย่างผู้เชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ ซึ่งความยาวอย่างน้อยจะต้อง 800 คำขึ้นไป และจะต้องมีการอัพเดทเว็บตลอดอย่างสมํ่าเสมอ เพื่อบอกทาง Google ว่ายังมีการอัพเดทตลอด ถ้ามีการแชร์เยอะไปในทางโซเชียลมีเดีย แล้วจะมีผลสูงมากต่อการทำ SEO

การทํา seo เว็บไซต์

บทสรุป

ทริกการเขียนบทความ SEO ที่ควรเข้ามาทำความรู้จักอย่างผู้เชี่ยวชาญ ถึงวิธีการเขียนบทความ SEO Content ตามหลัก ที่จะเข้ามา สอนเคล็ดลับในการทำ SEO เพิ่มเติมในการเขียนบทความอย่างไรให้ขึ้นหน้าหนึ่งของ Google ได้ยังไง เรายังมี เทคนิคการทำ SEO ร่วมทั้งยีงมีการตอบสนองการเจตนาของผู้ใช้งาน หรือที่ถูกเรียก Search Intent ยังมีเทคนิคอื่นๆ ฝากติดตามได้ที่ seoguru

หากอยากจะสอบถามข้อมูลอื่นๆ ปรึกษาการทำ SEO ทั้งสายขาว และสายเทาๆ ทักมาหาเราได้ที่ทางช่องทาง ADD LINE ได้เลย