WordPress เป็นทางเลือกสำคัญสำหรับการทำการตลาด ซึ่งเมื่อพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน หลายๆ มักจะคิดว่าต้องเน้นไปที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเท่านั้น เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย ทำคอนเทนต์ได้ไม่ยุ่งยากแถมยังยิง Ads หรือซื้อโฆษณาได้อีกด้วย
แต่ก็มีหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานก็คือ เวิร์ดเพรสส์ ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าร้านในโลกออนไลน์ที่จะเปิดให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชมร้านของคุณผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งในบทความนี้ SEOGURU จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับ เวิร์ดเพรสส์ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ การสร้างแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
WordPress คืออะไร?
เป็นคำถามที่หลายคนมักจะสงสัยอยู่บ่อยๆ ว่า WordPress คือ อะไร ทำไมถึงมักจะถูกนำมาสร้างเว็บไซต์ โดย เวิร์ดเพรสส์ เป็นโปรแกรมแบบสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับการจัดทำเนื้อหาต่างๆ ภายในเว็บไซต์ เป็นเว็บไซต์ที่ถูกจัดอยู่ในประเภท Contents Management System หรือเรียกสั้นๆ ว่า CMS ซึ่งจะมีการเขียนด้วยภาษาที่เรียกว่า PHP พร้อมกับมีฐานข้อมูลเป็นระบบ MySQL
ส่วนประกอบหลักของ เวิร์ดเพรสส์
สามารถแบ่งส่วนประกอบหลักที่จะอธิบายความเฉพาะได้ทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่
- WordPress core engine เป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการบริหารจัดการเว็บไซต์ คือซอฟต์แวร์ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับการจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 หน้าที่ ได้แก่ หน้าหลัก (Page) และ หน้าบทความ (Post)
- Theme หรือ ธีม จะเป็นสิ่งที่ได้มีการกำหนดไว้สำหรับการแสดงผล รูปแบบของเว็บไซต์ ดีไซน์ต่างๆ หรือการแสดงในหน้าจอที่มีรูปแบบต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต และ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
- Plug in หรือ ปลั๊กอิน เป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับการเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับการใช้วานในเว็บไซต์ ยกตัวอย่างเช่น ระบบสำหรับการชำระเงินหรือระบบการซื้อขายผ่านตะกร้าสินค้า เป็นต้น
เรียกได้ว่า WordPress คือ ทางเลือกที่สามารถใช้งานได้ง่ายมาก มีระบบหลังบ้านที่สะดวกและทำความเข้าใจได้อย่างไม่ยุ่งยาก ผู้ใช้งานสามารถที่จะบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหรือเขียนโปรแกรม เริ่มต้นใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งยังสามารถที่จะสร้างและจัดทำคอนเทนต์ ภาพและวิดีโอรวมถึงการใช้ปลั๊กอินต่างๆ ในเว็บไซต์แบบที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนเว็บหรือสร้างโปรแกรมเอง
จุดเด่นของ เวิร์ดเพรสส์
เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่มาพร้อมกับจุดเด่นมากมาย โดยมีข้อดี ดังนี้
- เป็นโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งพร้อมใช้งานได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
- วิธีการติดตั้งสะดวกและง่ายดายมาก เหมือนกับการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมทั่วๆ ไป
- สามารถที่จะตั้งค่า URL ได้ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- มีระบบส่วนเสริมที่มีประสิทธิภาพ อย่างระบบปลั๊กอิน (Plugin) ที่มีให้เลือกติดตั้งและใช้งานเยอะมาก ทั้งแบบที่ต้องเสียเงินและใช้งานได้ฟรีๆ อย่าง Rank math
- สามารถที่จะลงไฟล์สำหรับการสร้างเนื้อหาต่างๆ และสร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจเป็น ไฟล์วิดีโอ, รูปภาพ, เพลง และอื่นๆ เป็นต้น
- มีจุดเด่นในเรื่องของ Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายมาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการว่าจ้างโปรแกรมในการเขียนโค้ดและยังประหยัดเวลาได้มากอีกด้วย
- มีธีมให้เลือกเยอะมาก ทั้งในรูปแบบที่ต้องเสียเงินและใช้ได้ฟรี
- WordPress สร้างเว็บ สร้างหน้าโพสต์ที่สามารถตั้งเวลาไว้ได้เลย ทำให้คุณสามารถวางแผนสำหรับการจัดการเนื้อหาได้เป็นอย่างดี
- เหมาะสำหรับการทำการตลาดแบบ Search engine optimization หรือ SEO อย่างมาก ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ
เหตุผลที่ควรเลือกใช้ เวิร์ดเพรสส์ สำหรับการสร้างเว็บไซต์
เวิร์ดเพรสส์ เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปแบบเปิดที่ได้เปิดให้พัฒนาใน Open-source Software หรือแบบอิสระ ที่นักพัฒนาได้อย่างไม่มีการจำกัด อีกทั้งยังมีแนวทางมากมายในการใช้งานที่คุณสามารถศึกษาได้ผ่านทางโลกออนไลน์ คุณสามารถที่จะศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและส่วนประกอบได้เท่าที่ต้องการ พร้อมทั้งยังสามารถที่จะสร้างปลั๊กอินหรือธีมมาใช้ในการสร้างเว็บไซต์หรือจะทำขายให้แก่ผู้ใช้งาน
1.ช่วยประหยัดเงินและประหยัดเวลาในการสร้างเว็บไซต์
การสร้างเว็บไซต์ในอดีตนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสามารถและความรู้ความเข้าใจในการเขียนโปรแกรมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น Java, Coding, HTML และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณได้เริ่มต้นทำความรู้จัก เวิร์ดเพรสส์ คุณไม่จำเป็นที่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับโค้ดหรือการเขียนโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ แต่คุณก็สามารถที่จะสร้างเว็บไซต์แบบสำเร็จรูปที่โปรแกรมต่างๆ ที่ได้ถูกสร้างจากนักพัฒนาที่ได้ทำการออกแบบและพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากที่สุด ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดเวลา อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดเงินสำหรับการจ้างโปรแกรมเมอร์อีกด้วย ซึ่งในกรณีที่คุณได้จัดทำขั้นด้วยตัวเอง คุณจะเสียเงินแค่เพียง ค่าโฮสติ้ง ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโดเมน อีกทั้งในโปรแกรมยังมีปลั๊กอินและธีมมากมายที่สามารถโหลดและติดตั้งได้ฟรี
2.ระบบใช้งานได้ง่ายและสะดวก
เรียกได้ว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก มีโครงสร้างที่ดี ระบบหลังบ้านสามารถที่จะใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถติดต่อและสอบถามกับทางทีมซัพพอร์ตของทาง เวิร์ดเพรสส์ หรือ ผู้พัฒนาปลั๊กอินต่างๆ ได้อยู่เสมอเวลามีปัญหาเกิดขึ้น
3.เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นเลือกใช้ธีมได้หลายแบบ
มาพร้อมกับธีมที่มีให้เลือกเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นหนึ่งของเวิร์ดเพรสเลยทีเดียว เพราะธีมจะมพร้อมกับความยืดหยุ่นที่สูง เนื่องจากนักพัฒนามากมายได้มีการออกแบบพร้อมกับเขียนธีมออกมาเป็นหลากหลายประเภท มีแยกย่อยให้เหมาะสำหรับการใช้งานมากที่สุด สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะต้องการสร้างและจัดทำเว็บไซต์รูปแบบไหนก็ว่าสามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ยกตัวอย่างเช่น Blogs หรือ เว็บไซต์เกี่ยวกับบล็อกทั่วไป, News หรือ เว็บไซต์สำหรับการเขียนข่าว สื่อต่างๆ เป็นต้น
4.เป็น SEO Friendly
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เวิร์ดเพรสส์ เหมาะสำหรับการใช้งานในการทำการตลาดก็คือคุณสมบัติในการรองรับ SEO การทำการตลาดแบบ SEO ที่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญใดๆ ในการเขียนโค้ดแต่สามารถที่จะใช้งานปลั๊กอินต่างๆ ที่มีความหลากหลายมาก มาช่วยในเรื่องการทำ SEO ยกตัวอย่างเช่น Yoast SEO หรือ All in one SEO เป็นต้น ซึ่งยังสามารถที่จะเชื่อมต่อในการส่งข้อมูลไปที่ Google ได้ง่ายๆ ผ่านเครื่องมือที่ชื่อว่า Googls search console
5.ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่าย รองรับหน้าโทรศัพท์มือถือได้ดีเยี่ยม
เรียกได้ว่าสิ่งที่ทำให้ เวิร์ดเพรสส์ กลายเป็นที่นิยมเลยทีเดียว เนื่องจากสามารถที่จะรองรับในการใช้งานผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้เป็นอย่างดี รองรับหน้าจอโทรศัพท์มือถือและยังรองรับสำหรับหลายๆ หน้าจอ ซึ่งดีต่อการใช้งานอย่างมาก
6.มีระบบความปลอดภัยที่ดี
เป็นโปรแกรมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องพร้อมนำเสนอฟีเจอร์มากมาย มีการอัปเดตของระบบอยู่เสมอ ด้วยการพัฒนาที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบมีความปลอดภัยสูงมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือคุณจะต้องทำการอัปเดตเวอร์ชั่นของระบบพร้อมกับดูแลให้ดีตามคำแนะนำของนักพัฒนาปลั๊กอินและธีม ให้มีความสดใหม่ ทันสมัยอยู่เสมอ
เทคโนโลยี WordPress ในปี 2025 พัฒนาไปถึงไหนแล้ว
ในปี 2025 WordPress ไม่ได้เป็นเพียงระบบสร้างเว็บไซต์ทั่วไปอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเต็มรูปแบบ เช่น Block Editor (Gutenberg) ที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานง่ายและมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นกว่าเดิม คุณสามารถจัดวางเนื้อหา รูปภาพ วิดีโอ หรือปุ่มต่าง ๆ ได้แบบลากวาง (Drag & Drop) โดยไม่ต้องแตะโค้ดเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้ WordPress ยังรองรับการทำงานร่วมกับระบบ Headless CMS ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่แยกส่วนของ “หน้าบ้าน” (Front-End) และ “หลังบ้าน” (Back-End) ออกจากกัน เพื่อเพิ่มความเร็ว ความปลอดภัย และความสามารถในการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีภายนอก เช่น React, Next.js หรือ API จากระบบอื่น ๆ
จุดเด่นอีกอย่างคือการรองรับ AI Integration ที่เริ่มเข้ามาช่วยผู้ใช้งานสร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ เช่น การเขียนโพสต์ การใส่แท็ก SEO หรือแม้กระทั่งช่วยแนะนำคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับเนื้อหา เรียกได้ว่า WordPress ได้ก้าวไปอีกขั้นจากแพลตฟอร์มสร้างเว็บธรรมดา กลายเป็นระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถบริหารจัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว
WordPress กับการทำ SEO ที่มืออาชีพเลือกใช้
WordPress เป็นเครื่องมือที่ “นักทำ SEO ตัวจริง” นิยมใช้มากที่สุดในโลก เพราะระบบพื้นฐานของมันถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับ Google ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า URL ให้เป็นแบบ Clean Link การปรับโครงสร้าง Heading (H1–H6) ไปจนถึงระบบ Meta Title, Meta Description ที่สามารถแก้ไขได้ง่ายผ่านปลั๊กอินอย่าง Rank Math หรือ Yoast SEO
นอกจากนี้ WordPress ยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Google Analytics และ Google Search Console ได้โดยตรง ทำให้เจ้าของเว็บสามารถดูสถิติและวัดผล SEO ได้จากในแดชบอร์ด ไม่ต้องเปิดหลายแท็บให้ยุ่งยาก ยิ่งถ้าเว็บไซต์มีคอนเทนต์จำนวนมาก การใช้ปลั๊กอินช่วยจัดการคีย์เวิร์ดอัตโนมัติ หรือการสร้าง Sitemap.xml แบบเรียลไทม์ จะช่วยให้ Google จัดอันดับเว็บของคุณได้เร็วขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการทำ SEO ในระดับองค์กร WordPress ยังรองรับการทำ Technical SEO เช่น การตั้งค่า Schema Markup การเพิ่ม Breadcrumbs และการจัดการ Redirect 301 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เว็บไซต์มืออาชีพต้องมีครบ เพื่อให้เว็บไซต์มีคะแนน SEO สูงและติดอันดับหน้าแรกของ Google ได้ง่ายขึ้น
เทรนด์ใหม่ของ WordPress สำหรับธุรกิจออนไลน์
ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องมีตัวตนบนโลกออนไลน์ WordPress กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเริ่มต้นได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะ ธุรกิจ E-Commerce ที่สามารถใช้ปลั๊กอินยอดนิยมอย่าง WooCommerce เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์ได้ในไม่กี่คลิก ระบบนี้รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต โอนเงินผ่านธนาคาร หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี
นอกจากนี้ WordPress ยังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น คลินิก โรงแรม ร้านอาหาร หรือบริษัทท่องเที่ยว เพราะสามารถติดตั้งปลั๊กอินระบบจองคิวออนไลน์ ระบบรีวิวลูกค้า หรือแม้แต่แชตบอทได้ในไม่กี่นาที ช่วยให้เว็บไซต์ดูมีความเป็นมืออาชีพและใช้งานสะดวกมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้ WordPress ยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้คือ “ความยืดหยุ่นและการปรับตัว” ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นขนาดเล็กหรือองค์กรใหญ่ WordPress สามารถปรับแต่งให้ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการสร้างเว็บไซต์มืออาชีพในปี 2025
บทสรุป
ปัจจุบัน เวิร์ดเพรสส์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งจะเป็นระบบที่ดีอย่างยิ่งสำหรับการสร้างเว็บไซต์โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาหรือยุ่งยากในการออกแบบ เขียนโค้ด ภายในเว็บไซต์ที่ใช้ระบบเวิร์ดเพลสจะเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบในการใช้งาน สามารถทำงานได้หลากหลายแบบ เลือกธีมได้เยอะพร้อมกับติดตั้งปลั๊กอินที่มีให้เลือกเยอะมากเพื่อสำหรับการเลือกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างเหมาะสมมากที่สุด ดังนั้น ถ้าหากใครอยากมีหน้าร้านผ่านทางออนไลน์ อยากมีเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานต่างๆ ในการทำการธุรกิจ เพื่อเปิดทางให้ร้าน สินค้าหรือบริการของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่อยากให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาดูแลโดยเฉพาะ ติดต่อ SEOGURU ได้เลยตอนนี้ เราพร้อมให้คำแนะนำฟรี