AI Chatbot กำลังพลิกโฉมวิธีการที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ในการให้ความรู้แก่ผู้ที่อาจเป็นลูกค้า prospects , ดูแลลูกค้าเป้าหมาย leads , และให้บริการสนับสนุนลูกค้า แชทบอทกลายเป็นเครื่องมือที่แพร่หลายอย่างมากเลยทีเดียว โดย 88% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาเคยสนทนากับแชทบอท AI อย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีที่ผ่านมา กับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ
หากคุณกำลังมองหาแชทบอทที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ ลองดูรายการของเราในบทความนี้โพสต์นี้ได้เลย! โปรดทราบว่า ไม่มีแชทบอทตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ ท้ายที่สุดแล้ว แชทบอทที่ดีที่สุดคือแชทบอทที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณนั่นเอง
เอาละพร้อมกันแล้วทางทีมงาน seoguru ขออาสาพาไปเจาะลึกกันเลยว่าจะมีโปรแกรมไหนบ้างที่จะเข้ามาช่วย AI แชทบอท เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงธุรกิจของคุณ
อยากรู้ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับ AI และแชทบอทไหม? สมัครรับจดหมายข่าวฟรีของเราสิ! เราจะส่งข้อมูลการตลาดดิจิทัลใหม่ล่าสุดตรงถึงกล่องจดหมายของคุณเลย!

1. Microsoft Copilot: เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ Microsoft Office
- ราคา:มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้ แบบเสียเงินเริ่มต้นที่ $30 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (ประมาณ 1,000 บาท)
- ข้อดี: ใช้งานได้ทั้งบนเครื่องมือค้นหา Microsoft Bing และแอปพลิเคชัน Microsoft Office อื่นๆ
มีเวอร์ชันฟรีให้ลองใช้ - ข้อเสีย: อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้แอปพลิเคชัน Microsoft Office เป็นหลัก
Microsoft Copilot คืออะไร และทำงานอย่างไร
เป็น AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) สามารถตอบคำถามและสรุปข้อมูลให้ผู้ใช้ได้ เมื่อตอบคำถามเสร็จแล้ว จะมีคำถามแนะนำเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณถามไปให้ด้วย หรือคุณจะถามคำถามต่อเนื่องเองก็ได้
การเข้าถึงและการใช้งาน มีให้ใช้งานในแอปพลิเคชัน Microsoft ต่างๆ เช่น Bing, Word, Excel, PowerPoint, Outlook, และ OneNote
คุณสามารถเข้าถึง Copilot ได้ก่อนที่จะเริ่มค้นหา หรือแม้กระทั่งจากผลการค้นหาบน Bing ก็ได้ การที่ Copilot อยู่ในแอป Microsoft เหล่านี้ ทำให้เป็นผู้ช่วย AI แชทบอท ที่ดีเยี่ยม ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้มาก

2. ChatGPT: ดีที่สุดสำหรับการระดมไอเดียเนื้อหา
- ราคา: เริ่มต้นที่ $20 ต่อเดือน มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้
- ข้อดี: ใช้งานง่าย
- ข้อเสีย: อาจจะต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชันเสียเงิน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก AI แชทบอตนี้
ChatGPT น่าจะเป็น AI แชทบอตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เปิดตัวโดย OpenAI ในปี 2022 และมีผู้ใช้ถึงหนึ่งล้านคนภายในเวลาเพียงห้าวัน ปัจจุบัน ผู้คนและองค์กรต่างๆ วิธีใช้ ChatGPT เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน แต่สำหรับนักการตลาดแล้ว มันโดดเด่นสำหรับการ ระดมไอเดียเนื้อหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจาก ChatGPT สำหรับงานการตลาดเนื้อหานี้ คุณควรให้ข้อมูลบริบทในคำสั่ง prompts ของคุณ เพื่อให้มันสร้างหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและลูกค้าของคุณ
รายละเอียดบางอย่างที่คุณสามารถใส่ได้ ได้แก่
- ลักษณะและที่ตั้งของธุรกิจของคุณ
- คำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับลูกค้าของคุณ
- คำหลัก (keywords) หลัก
- ประเภทเนื้อหาที่คุณกำลังมองหา
กรณีใช้งานเพิ่มเติม: คุณยังสามารถขอให้ ChatGPT สร้างโครงร่างเนื้อหาคร่าวๆ เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อีกด้วย อ่านต่อกับ 5 กลยุทธ์การตลาด AI พลิกโฉมธุรกิจด้วย chatgpt marketing
3. Perplexity: ดีที่สุดสำหรับการค้นคว้าวิจัย
ราคา: เริ่มต้นที่ $20 ต่อเดือน มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้
ข้อดี
- มีลิงก์อ้างอิงแหล่งที่มา ทำให้ตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย
- เวอร์ชันฟรีสามารถค้นหาแบบ “Quick search” ได้ไม่จำกัด
ข้อเสีย
- หน้าตาอาจดูรกและเยอะเกินไปสำหรับการค้นหาข้อมูลแบบง่ายๆ
Perplexity เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลและ AI Chatbot ที่เหมาะที่สุดสำหรับงานวิจัย คุณสามารถป้อนคำถามหรือคำสั่งได้ทั้งแบบข้อความ เอกสาร หรือเสียง โดยปกติแล้ว Perplexity จะให้ข้อมูลอ้างอิงและลิงก์ไปยังแหล่งที่มา ทำให้คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ง่าย
เมื่อตอบคำถามเสร็จแล้ว แชทบอท AI นี้จะให้รายชื่อคำถามที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแนะนำคุณในการค้นคว้าวิจัยต่อไป คุณยังสามารถป้อนคำถามเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Perplexity คุณสามารถค้นหาข้อมูล ได้ 5 รูปแบบ
- Quick search (ค้นหาด่วน): เป็นการค้นหาข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลจำนวนจำกัด เหมาะสำหรับการหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ
- Pro search (ค้นหาแบบมืออาชีพ): ให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่มากกว่า Quick search ถึงสามเท่า และจะโต้ตอบกับคุณเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ตรงกับความต้องการของคุณ
- Deep research mode (โหมดวิจัยเชิงลึก): AI จะทำการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลายร้อยแหล่งด้วยตัวเอง และสรุปเป็นรายงานที่ครอบคลุม
- Reasoning search mode (โหมดค้นหาแบบใช้เหตุผล): เหมาะสำหรับการวิจัยและวิเคราะห์ระดับผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อต่างๆ คุณจะได้รับรายงานที่สรุปข้อมูลมาให้แล้วแต่ยังคงความลึกซึ้ง และสามารถดาวน์โหลดรายงานเป็นไฟล์ PDF ได้
- Multimodal search (ค้นหาแบบหลากหลายรูปแบบ): การค้นหาประเภทนี้ช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลโดยใช้ข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ เอกสาร รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ
Perplexity เวอร์ชันฟรีให้คุณค้นหาแบบ Quick search ได้ไม่จำกัด และ Pro search ได้ 3 ครั้งต่อวัน คุณสามารถดูประวัติการค้นคว้าและบทสนทนาที่ผ่านมากับแชทบอทได้ ทำให้แผนฟรีของ Perplexity ไม่ได้จำกัดการใช้งานมากนัก
หากคุณมีงานวิจัยที่ต้องทำบ่อยครั้งและต้องการ Pro search มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน คุณสามารถอัปเกรดเป็น Perplexity Pro ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 20 ดอลลาร์ต่อเดือน คุณจะสามารถใช้ Pro search ได้หลายร้อยครั้งต่อวัน
นอกจากนี้ เมื่อใช้แผนแบบชำระเงิน คุณจะสามารถเข้าถึงโมเดล AI อื่นๆ ได้ด้วย เช่น GPT-4.1, Claude 4.0 Sonnet และ Gemini 2.5 Pro
4. Google Gemini: เหมาะสำหรับผู้ใช้ Google Workspace
- ราคา: แพ็กเกจ Google AI Pro เริ่มต้นที่ $19.99 ต่อเดือน และมีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน
- ข้อดี: ทำงานเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ Google Workspace
- ข้อเสีย: ใช้งานได้ในบางประเทศเท่านั้น แต่ตอนนี้รองรับภาษาไทยแล้ว และมีให้บริการในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย
Google Gemini คืออะไร?
Google Gemini เดิมชื่อ Google Bard เป็นแชทบอท AI ที่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับผู้ใช้ Google Workspace แชทบอทนี้ขับเคลื่อนด้วยโมเดล AI ที่มีชื่อเดียวกันคือ Gemini

คุณสามารถเริ่มใช้งานได้ด้วยการพิมพ์ข้อความหรือใช้เสียง หรือจะอัปโหลดรูปภาพหรือไฟล์จาก Google Drive หรือคอมพิวเตอร์ของคุณก็ได้ Gemini ถูกรวมเข้ากับแอป Google Workspace ต่างๆ เช่น Google Docs, Google Drive, Gmail, Google Sheets และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้คุณสามารถใช้งานเป็นผู้ช่วยเสมือนจริงในขณะที่คุณทำงานในระบบนิเวศของ Google
Google Gemini ใน Google Drive ทำอะไรได้บ้าง?
คุณสามารถสั่งให้ Gemini ค้นหาไฟล์ใน Google Drive ของคุณ หรือขอให้มันสรุปข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์ที่มีอยู่ในโฟลเดอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้ นอกจากนี้ยังสามารถสรุปอีเมลใน Gmail ให้คุณได้ด้วย
ล่าสุดมีหลายๆ คนต่างก็ทำ คลิป AI สร้างรายได้ ขายของ ทำคลิปขำๆ ทำเงินได้ และยังเป็นกระแสอย่างมาในตอนนี้กับ gemini ai studio อยากรู้ว่าดีไหม เราจะมารีวิวกันต่อ
5. Kommunicate : เหมาะที่สุดสำหรับบริการลูกค้า
ราคา: เริ่มต้นที่ $33.33 ต่อเดือน; มีทดลองใช้ฟรี 30 วัน
ข้อดี
- เรียนรู้จากข้อมูลของคุณ: สามารถฝึกให้บอทเรียนรู้จากเนื้อหาบนเว็บไซต์และเอกสารของคุณได้
- เชื่อมต่อกับระบบ CRM ยอดนิยม: ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่เป็นที่นิยมได้อย่างราบรื่น
ข้อเสีย
- ความถูกต้องและน้ำเสียงขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ฝึก
- ประสิทธิภาพของบอทจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลที่คุณใช้ฝึก
ทำไม Kommunicate ถึงน่าสนใจ
หากคุณกำลังมองหาแชทบอทที่ช่วยให้ทีมบริการลูกค้าของคุณตอบกลับได้เร็วขึ้น Kommunicate เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา Kommunicate ใช้ AI แบบสร้างสรรค์ Generative AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เพื่อให้คุณสามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แชทบอท AI นี้สามารถจัดการคำถามทั่วไปและคำถามที่พบบ่อยได้ สำหรับคำถามที่ซับซ้อนกว่านั้น บอทสามารถโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนได้โดยอัตโนมัติ
คุณสามารถฝึก Kommunicate ด้วยข้อมูลเหล่านี้
- เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ
- บทความในฐานข้อมูลความรู้ (จากแพลตฟอร์ม CRM ของคุณ)
- เอกสารต่างๆ (เช่น ไฟล์ PDF, สเปรดชีต, เอกสาร Word)
นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่ง Kommunicate เพื่อให้แน่ใจว่าบอทให้คำตอบที่ถูกต้องและยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณไว้ได้
6. Ada: ข้อมูลราคาและภาพรวมของ Ada
ราคา: กรุณาติดต่อ Ada โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลราคา
ข้อดี
- บริการลูกค้าที่เป็นส่วนตัว
- แม้จะเป็น AI แต่ Ada มีจุดเด่นที่การมอบประสบการณ์การบริการที่เป็นส่วนตัว
ข้อเสีย
- อาจขาดความเป็นมนุษย์
- การพึ่งพาระบบ AI ในการบริการลูกค้าอาจทำให้การโต้ตอบขาดความเป็นส่วนตัวแบบมนุษย์
Ada ใช้เทคโนโลยีการทำความเข้าใจภาษาธรรมชาติ Natural Language Understanding ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากปฏิสัมพันธ์ด้านการบริการลูกค้าหลายพันล้านครั้ง ทำให้สามารถเข้าใจบริบทของคำถามและปรับแต่งการสนทนาให้เป็นส่วนตัวได้
แชทบอทหลายภาษานี้สามารถเข้าใจและตอบสนองได้มากกว่า 50 ภาษา และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ CRM ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถซิงค์ Ada เข้ากับฐานข้อมูลความรู้ของคุณ เพื่อให้สามารถสร้างเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติจากคลังข้อมูลที่มีอยู่ของคุณ
อ่านเพิ่มเติมกับ VPN คืออะไร ใช้งานยังไงให้เหมาะสม จบในบทความเดียว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Chatbot
AI Chatbot คืออะไร?
AI Chatbot คือโปรแกรมที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เพื่อตีความสิ่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ทำความเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ และให้คำตอบที่เป็นประโยชน์
ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ AI Chatbot เป็นผู้ช่วยฝ่ายขายและเครื่องมือสนับสนุนหลังการขายได้ เพราะ Chatbot เหล่านี้สามารถเข้าใจภาษาของเราและตอบคำถามได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์มาช่วยตอบ
ประเภทของแชทบอทที่พบบ่อย
แชทบอทที่เราคุ้นเคยกันนั้นมีหลักๆ อยู่ 3 ประเภท ดังนี้ครับ
แชทบอทแบบใช้กฎ (Rule-based chatbots): แชทบอทประเภทนี้จะทำงานตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้าครับ ผู้ใช้จะต้องเลือกคำถามจากตัวเลือกที่เตรียมไว้ให้ จากนั้นแชทบอทก็จะให้คำตอบที่ตรงกับคำถามที่เลือกไว้
แชทบอทอิสระ (Independent chatbots): แชทบอทกลุ่มนี้จะใช้เทคโนโลยี AI (ปัญญาประดิษฐ์) และ Machine Learning (การเรียนรู้ของเครื่อง) ในการตอบคำถามครับ โดยจะวิเคราะห์จากคีย์เวิร์ดหรือคำสำคัญที่ผู้ใช้พิมพ์เข้ามา
แชทบอทแบบ NLP (NLP chatbots): แชทบอทประเภทนี้รู้จักกันในชื่อ “แชทบอทที่เข้าใจบริบท” ครับ เป็นการรวมกันระหว่างแชทบอทแบบใช้กฎและแชทบอทอิสระ ทำให้สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้เหมือนคนจริง และช่วยแก้ไขปัญหาของผู้ใช้ได้ในขั้นตอนที่น้อยที่สุดครับ
เลือกแชทบอทอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ
ก่อนที่จะมองหาฟีเจอร์ต่างๆ ของแชทบอท สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ความต้องการของตัวเองก่อน ว่าจะนำแชทบอทไปใช้ทำอะไร
ความสามารถด้าน NLP (Natural Language Processing): แชทบอทบนเว็บไซต์เพื่อแนะนำลูกค้าให้ซื้อสินค้าหรือตอบคำถามต่างๆ ควรเลือกแชทบอทที่มีความสามารถด้าน NLP ซึ่งทำให้แชทบอทเข้าใจภาษาธรรมชาติได้ แต่ถ้าเส้นทางการตัดสินใจของลูกค้าไม่ซับซ้อนมากนัก คุณก็สามารถเลือกแชทบอทที่สามารถฝึกฝนและสร้างขั้นตอนการทำงาน (workflow) ขึ้นมาเองได้
การปรับแต่ง (Customization): คุณต้องการแชทบอทที่ปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจของคุณได้หรือไม่? ถ้าต้องการให้แชทบอทเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์คุณ ลองมองหาแชทบอทที่มีระบบจัดการเนื้อหา เพื่อให้คุณสามารถใส่สีและฟอนต์ของแบรนด์ลงไปในแชทบอทได้
การเชื่อมต่อ (Integration): แชทบอทที่คุณเล็งไว้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือการตลาด ที่คุณมีอยู่แล้วได้ เช่น หากคุณใช้แพลตฟอร์ม CRM และใช้แชทบอทเพื่อสร้าง Lead ก็ต้องแน่ใจว่าแชทบอทและ CRM ของคุณสามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น
ฟีเจอร์วิเคราะห์และรายงานผล (Analytics and Reporting Features): วิเคราะห์และรายงานผลเพื่อติดตามผลลัพธ์ว่าแชทบอทสามารถนำพาผู้สนใจให้ลงทะเบียนเป็น Lead ได้สำเร็จหรือไม่? หรือลูกค้าได้รับการแก้ไขปัญหาบริการหลังการขายผ่านแชทบอทหรือไม่? ฟีเจอร์วิเคราะห์ของแชทบอทจะช่วยให้คุณหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ได้
ราคา (Price): สุดท้าย ให้เลือกแชทบอทที่อยู่ในงบประมาณของคุณ หากคุณเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME ให้พิจารณาแชทบอทที่เหมาะกับขนาดธุรกิจ งบประมาณ และจำนวนคำถามที่คุณได้รับ โปรดทราบว่าแชทบอทบางรายมีแพ็กเกจการสมัครสมาชิกที่อิงตามจำนวนผู้ใช้ในทีมของคุณ
ลอง ทักมามาหา ปรึกษา SEOGURU สิ พวกเราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยคุณสร้างคอนเทนต์ SEO อย่างมืออาชีพ มากด้วยประสบการณ์ในวงการ