Influencer Marketing การตลาดผ่านบุคคลที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์

Influencer Marketing

Influencer Marketing หรือที่พวกเราเรียกกันย่อๆว่า อินฟูล นั่นเอง โดยจะเป็นผู้ที่มารีวิวสินค้าที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อคนแต่ละกลุ่ม แตกต่างกันออกไป อย่างอินฟลูสายบิวตี้ ก็จะมาแนะนำในเครื่องสำอาง ความสวยความงาม แต่ถ้าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในสายแฟชั่น แน่นอนว่า รีวิวการแต่งตัว รวมไปถึง โฆษณาแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนั้น

ยุคสมัยที่ใครๆต่างก็มีสื่อสังคมอยู่ในมือตนเอง อย่างโทรศัพท์มือถือ ที่จะช่วยพาท่านได้ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตแบบไร้ขีดจำกัด ถ้าให้พวกเรา SEOGURU พูดแบบเข้าใจง่ายๆ Facebook, Instagram, Youtube และ Tiktok กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนเลย และทุกแพลตฟอร์มมักจะมีการขายสินค้ารวมไปด้วย เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงทุกคนแบบเห็นได้ชัด ถ้าไม่ขายของตรงนี้ จะให้ไปขายตรงไหนละ ถูกมั้ย

พาส่อง Search Engines คืออะไร สิ่งจำเป็นในการทำ SEO ให้มีติดอันดับ ที่จะเข้ามาทำเสนอข้อมูลในยุคปัจจุบัน เข้ามาอ่านเพิ่มเติมกันได้เลย เราได้เขียนรีวิวกันเอาไว้แล้ว

คำจำกัดความ Influencer Marketing คือ อะไร?

influencer marketing

เป็นการตลาดผ่านผู้ที่มีอิทธิพลอยู่ใน Social Media โดยมีตั้งแต่ ดารา นักร้อง นักแสดง เน็ตไอดอล ยูทูปเปอร์ และล่าสุดในแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นกระแสที่สุดในตอนนี้ โดยผู้คนจะเรียกกันว่า ดาว TikTok ซึ่งการทำตลาดผ่านบุคคลเหล่านี้มีผลอย่างมากในการขายสินค้า พอเราเห็นคนที่เราชื่นชอบใช้ เราก็ต้องอยากใช้ด้วยเป็นเรื่องธรรมดา หรือบางสินค้า เรามีแพลนจะซื้ออยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อของแบรนด์ไหนดี แต่พอเห็นอินฟูลรีวิว ท่านก็จะตัดสินใจได้แบบง่ายขึ้น

โดยบุคคลที่จะมาทำหน้าที่การตลาดตรงนี้ มักจะเป็นผู้ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป ซึ่งการทำตลาดแบบนี้ จู่โจมผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี มีหนึ่งคนซื้อตามแล้วดี นำมารีวิว ก็จะมีการซื้ออย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นอีก ถ้าเรียกกันภาษาที่พวกเราใช้คือ อุปทานหมู่ เห็นเค้ามี ก็อยากมีบ้าง ซื้อเอาไว้ก่อน กลัวไม่ทันสมัย แม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ ถ้าให้ยกตัวอย่างล่าสุดคือ Art toy ที่เป็นกระแสขึ้นอย่างเจ้าตัว ลาบูบู้ เพราะ Lisa Blackpink

ลิซ่า มีผู้ติดตามในไอจีมากถึง 103 ล้านคน แน่นอนว่า ลิซ่าไม่ได้รับการจ้างโฆษณาจาก Popmart ที่เป็นผู้ผลิตตุ๊กตาลาบูบู้ แต่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และทำการถ่ายลงรูปในสตอรี่ไอจีส่วนตัวเท่านั้น จนทำให้เกิด กระแส ลาบูบู้ ฟีเวอร์ขึ้นมาทันที จากที่ราคาอยู่แค่เพียงหลักร้อย ในไซส์เล็ก แบบพวงกุญแจ กระโดดไปเป็นหลักพันได้ในเวลาไม่กี่วัน หรือถ้าเป็นแบบยกกล่องทั้งหมด 6 ตัว จากพันไปเป็นหมื่นทันที หลังลิซ่าโพสลงไอจี

นี่คือการอธิบายการตลาดแบบ Influencer Marketing ที่ท่านสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ บางสินค้าไม่ได้จ้างให้อินฟูลเหล่านี้โฆษณาให้ ไม่มีการเสียเงินเลยสักบาท แต่เพราะแค่การโพสลงสื่อสังคมส่วนตัวของอินฟลูท่านนั้น ก็จะได้รับฟีดแบ็กที่เกินคาดกลับมา จนสินค้าขาดตลาด มีการขึ้นราคาเป็นเท่าตัว เพราะจำนวนความต้องการมากกว่าจำนวนการผลิต การตลาดนี้จึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการช่วยให้สินค้าขายดีมากที่สุด

ประเภทของ Influencer Marketing แบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม

influencer marketing

แน่นอนว่าการเป็น อินฟลูเอนเซอร์ ย่อมมีอิทธิพลต่อการตลาดอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทุกอินฟลูจะทำให้สินค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้หมด เพราะมันขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ เรทค่าตัว และจำนวนผู้ติดตาม และการทำคอนเทนต์ว่าสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน ด้วยเหตุนี้จึงมีการแบ่งประเภทของ อินฟูล ออกเป็น 5 ประเภท โดยแบ่งตามจำนวนผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Social Media ดังนี้

  1. Nano Influencer เป็นอินฟูลที่มีผู้ติดตามจำนวนน้อยที่สุด โดยเริ่มต้นที่ 1,000 – 10,000 คน โดยผู้จ้างมักจะจ้างอินฟูลประเภทนี้มากที่สุด เพราะราคาไม่แพง และตัว นาโน  อินฟลูเอนเซอร์ เวลาทำคอนเทนต์จะดูมีความเป็นจริงมากกว่าระดับอื่นๆ จะได้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน และทำให้กระจายเป็นวงกว้างขึ้นแบบปากต่อปาก
  2. Micro Influencer มีอีกชื่อว่า  Everyday Influencer  คือ จะมีจำนวนผู้ที่ติดตามตั้งแต่ 10,000-50,000 คน การทำงานจะเหมือนกับ นาโน แต่มีข้อดีมากกว่าตรงจำนวนผู้ติดตาม ที่จะทำให้ผลตอบรับไปเร็วกว่า รวมไปถึงการที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จะทำให้อินฟูลเป็นตัวของตัวเอง ดูสมจริง กล้าทำคอนเทนต์ที่แตกต่างจากอินฟูลประเภทอื่นๆ
  3. Mid-Tier Influencer เป็นระดับที่มีจำนวนผู้ติดตาม 50,000-100,000 คน โดยเป็นที่ต้องการของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงพอสมควร เพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำภาพของแบรนด์ได้ นอกจากนี้การสร้างคอนเทนต์จะเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า 2 ประเภทแรกที่กล่าวไปข้างต้น เพราะจำนวนคนติดตาม แต่แน่นอนว่า ค่าตัวก็แพงตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน
  4. macro influencer คือ ผู้ที่มีคนติดตามในแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ตั้งแต่ 100,000-1,000,000 คน แน่นอนว่า ระดับนี้คืออินฟลูแบบเต็มตัว ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถสร้างอิมแพ็คให้กับสินค้าเหล่านั้นได้ เพราะการสร้างคอนเทนต์ของคนกลุ่มนี้จะมีความเป็นมืออาชีพ สามารถเจาะจงได้ว่า จะเป็นในแนวทางใด เช่น ท่องเที่ยว, ความงาม, สุขภาพ, อาหาร และเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนไปเลย
  5. Mega Influencer มาถึงประเภทสุดท้าย ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป โดยแน่นอนว่าจะมีทั้ง ดารา นักร้อง นักแสดง เน็ตไอดอล Celebrity และนักกีฬา โดยคนเหล่านี้จะสามารถทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำแบบวงกว้าง โดยไม่ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพราะทุกวัย ก็ต้องติดตามคนเหล่านี้อย่างแน่นอน ในส่วนของเรทราคานั้น แพงที่สุดในประเภทของ Influencer Marketing

ถ้ามองภาพไม่ออก Social Media ที่กำลังโด่งดังในเวลานี้ ขายของออนไลน์ ยอดขายปังมาก ในแพลตฟอร์ม Tiktok ในช่องของ เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น จากเปลี่ยนกระแสดราม่า ให้เป็นยอดขายที่ปัง ขาย 5 นาที ถึง 10 นาที ยอดจากเป็นล้าน รวมเหล่านัก อินฟลู ดารา มาบ้านเจนนี่กันเพียบ เรียกได้ว่าในชั่วโมงนี้เป็น เทศกาลเจนนี่ขายหมดถ้าสดชื่น

คอนเทนต์แบบไหนที่  Influencer Marketing นิยมทำในปี 2025

Influencer Marketing

การตลาดในรูปแบบนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไปตามเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม หรือจะปรับไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค จะไม่มีการหยุดนิ่ง เมื่อมีเหตุการณ์อะไรที่พอจะทำให้การสร้างคอนเทนต์น่าสนใจได้มากกว่าเดิม การใช้เทรนด์เหล่านั้นมาปรับให้เข้ากับสินค้าก็จะมีประโยชน์กับธุรกิจเป็นอย่างมาก

  • Everyday Influencer ยังคงเป็นอินฟูลที่ได้รับการจ้างงานมากที่สุดในตลาดนี้ เนื่องจากการทำคอนเทนต์ให้ดูเหมือนคุยกับเพื่อน ไม่ได้ดูจงใจขายของจนเกินไป มีความตลก ความเป็นกันเอง รวมอยู่ด้วย และคนกลุ่มเหล่านี้ มักจะไม่ใช่คนดัง เป็นแค่คนธรรมดาที่เข้ามาเล่นตามแพลตฟอร์มและมีคอนเทนต์โดนใจคนทั่วไป จนกลายเป็นมีชื่อเสียง และทำให้ผู้คนเลือกที่จะเชื่อ Micro Influencer มากกว่าในระดับอื่นๆ เพราะดูเข้าถึงได้งง่ายกว่า
  • การสร้างคอนเทนต์แบบแปลกใหม่ ไม่จำเจ ถ้าการโฆษณาที่เราเคยเห็นตามทีวี แบบนั้นเราจะรู้ว่านี่คือการมาขายของเลย แต่การเป็น Influencer ต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์ จะมาตรงๆว่าขายของนะ โดยไม่มีลูกเล่นอะไร บอกแค่สรรพคุณของสินค้าที่คุณจะขายแล้วตัดจบเลย
  • แพลตฟอร์มอย่าง Instagram ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง ของ Influencer Marketing โดยมีอิทธิพลมากถึง 76%  อันดับ 2 คือ Facebook 46% ตามมาด้วย Youtube 36% และ X หรือ Twitter 24% ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่มี Tiktok อยู่ในอันดับ ซึ่งการทำวีดีโอคอนเทนต์ถือสื่อที่ผู้คนยังคงเลือกที่จะดูมากกว่าอ่าน และ ติ๊กต๊อก ก็กลายเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 มากที่สุด ในปี 2025 และทำให้ใครก็ได้ที่มีผู้ติดตาม สามารถกลายมาเป็น  Influencer ได้หมด เมื่อ Tiktok ได้รับความนิยมในช่วง Covid-19

Influencer กับ KOL ต่างกันยังไง? ทำไมแบรนด์ยุคนี้ต้องเข้าใจให้ลึก!

ในยุคที่การตลาดออนไลน์หมุนเร็วกว่าแสง เสียงของคน กลายเป็นพลังที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมหาศาล และสองคำที่เราได้ยินบ่อยที่สุดในวงการนี้คือ Influencer และ KOL (Key Opinion Leader) ฟังดูคล้ายกัน แต่เชื่อไหมว่าจริง ๆ แล้ว “ต่างกันสุดขั้ว”!

KOL คือใครกันแน่?

KOL (Key Opinion Leader) หรือ “ผู้นำความคิดเห็น” คือคนที่มีอิทธิพลเชิงลึกในวงการเฉพาะด้าน เช่น แพทย์ที่แนะนำวิตามิน นักรีวิวเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญ หรือเชฟมืออาชีพที่พูดเรื่องอาหาร คนกลุ่มนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียง แต่ มีความน่าเชื่อถือจากความรู้จริง และได้รับการยอมรับในวงกว้าง

พูดง่าย ๆ คือ KOL คือ “ผู้รู้” ที่พูดแล้วคนเชื่อ ไม่ใช่เพราะมีคนตามเยอะ แต่เพราะ “เขาเก่งจริง”

KOL = ผู้เชี่ยวชาญในวงการเฉพาะด้าน

แล้ว Influencer ล่ะ ต่างตรงไหน?

Influencer คือ “ผู้สร้างแรงบันดาลใจ” ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตามผ่าน บุคลิก ไลฟ์สไตล์ และการนำเสนอคอนเทนต์

พวกเขาอาจไม่เชี่ยวชาญลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่มีพลังในการ “สื่อสารและเชื่อมต่อหัวใจคนดู” ได้ดีกว่าใคร เช่น บล็อกเกอร์สายแฟชั่น ยูทูบเบอร์รีวิวของกิน หรือเน็ตไอดอลที่แชร์ชีวิตประจำวันอย่างมีเสน่ห์

Influencer = ผู้สร้างอิทธิพลไลฟ์สไตล์และตัวตน

ทำไมแบรนด์ยุคนี้ถึง ขาด Influencer Marketing ไม่ได้

กลยุทธ์ Influencer Marketing ไม่ใช่แค่ จ้างคนดังมาโพสต์สินค้า แต่มันคือศิลปะของการใช้ “คนที่คนเชื่อ” มาสร้าง “ความไว้วางใจ” ให้แบรนด์อย่างแนบเนียน  มาดูกันว่าข้อดีของการใช้ Influencer Marketing มีอะไรบ้าง

1. เปลี่ยน คำพูดคนดัง ให้กลายเป็น เสียงรับรอง Testimonial

ไม่มีโฆษณาไหนน่าเชื่อถือเท่าคำพูดของ “คนที่ใช้จริง” การให้ Influencer รีวิวสินค้า คือการสร้าง “เสียงยืนยันจากประสบการณ์ตรง” ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อ

ตัวอย่าง : เมื่อบิวตี้บล็อกเกอร์คนโปรดของคุณรีวิวครีม แล้วบอกว่าดีจริง คุณก็พร้อมจะกดสั่งทันทีโดยไม่ต้องลังเล

2. เพิ่ม Brand Engagement ทำให้คน รู้สึกใกล้ชิด กับแบรนด์

Influencer ไม่ได้แค่ขายของ แต่สร้าง “ความสัมพันธ์” ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เมื่อผู้ติดตามเห็นคนที่พวกเขารักใช้สินค้าจริง เขาจะรู้สึกเหมือน “ได้ลองไปพร้อมกัน” นี่แหละคือพลังของความผูกพันที่เปลี่ยนจาก คนดู → ลูกค้า → แฟนคลับแบรนด์

จาก Engagement เล็ก ๆ อย่าง Like หรือ Comment สามารถต่อยอดเป็น Brand Loyalty ที่มั่นคงในระยะยาวได้เลย

3. สร้าง Social Engagement ได้อย่างทรงพลัง

ในยุคที่โซเชียลมีเดียคือหัวใจของการตลาด การมี Influencer มาช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ คือการเปิด ช่องทางสื่อสารที่เป็นธรรมชาติที่สุด

  • ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ภาพ รีวิววิดีโอ หรือแม้แต่การ Live พูดคุยกับแฟนคลับ
  • สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วม (Like, Share, Comment) ได้อย่างต่อเนื่อง
  • ทำให้แบรนด์ของคุณมีชีวิตชีวาและเข้าถึงคนได้มากกว่าเดิมหลายเท่า!

สรุป KOL กับ Influencer ทั้งคู่สำคัญ แต่อย่าจับผิดจุด!

  • KOL คือ “ผู้เชี่ยวชาญที่พูดแล้วคนเชื่อ”
  • Influencer คือ “ผู้มีเสน่ห์ที่พูดแล้วคนอยากฟัง”

แบรนด์ที่ฉลาดในปี 2025 จะไม่เลือกแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะรู้ว่า เมื่อไรควรใช้ KOL เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ และ เมื่อไรควรใช้ Influencer เพื่อจุดไฟให้แบรนด์เปล่งประกายบนโลกออนไลน์

เพราะในโลกที่ทุกคนพูดได้ เสียงที่ “คนฟังและเชื่อ” คือสิ่งที่มีค่าที่สุดจริง ๆ

จุดต่างที่เห็นชัดระหว่าง KOL และ Influencer

ประเด็นKOLInfluencer
จุดเด่นเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีข้อมูลเชิงลึกมีเสน่ห์ ดึงดูดด้วยคาแรกเตอร์
แรงจูงใจของผู้ติดตามเชื่อถือในความรู้และประสบการณ์ชื่นชอบไลฟ์สไตล์และการนำเสนอ
จำนวนผู้ติดตามไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่มีคุณภาพมักมีฐานแฟนกว้างขวางในโซเชียล
พลังในการโน้มน้าวมาจากความเชี่ยวชาญมาจากความสัมพันธ์และความชอบส่วนตัว

สรุป การตลาดแบบใช้ Influencer อินฟลูเอนเซอร์

Influencer Marketing คือการตลาดที่จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจในปี 2025 โดยจะเชื่อมต่อกับผู้บริโภคผ่านทางบุคคลที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ เช่น แพลตฟอร์ม โซเซียลมีเดีย โดยจะโฆษณาสินค้าแบรนด์ต่างๆผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และถ้าหากท่านผู้อ่านสนใจการทำ Digital Marketing สามารถติดต่อ SEO GURU ได้ทุกเวลา เราเป็นผู้มีประสบการณ์ทางด้านนี้มากกว่า 10 ปี พร้อมเปลี่ยนยอดขายของท่าน ให้ปังกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว

เราคือผู้มีความสามารถเฉพาะด้าน SEO ทำเว็บ จัดอันดับ สร้างเว็บไซต์ นี่คือแหล่ง Blog เคล็ดลับในการทำ SEO ที่อัปเดตล่าสุด เรียนรู้วิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ติดอันดับสูงใน Google จากผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO พร้อมคำแนะนำและเทคนิคที่ใช้ได้จริง ไม่รู้จักเริ่มยังไงทักมาได้ที่ LINE ได้เลย ยินดีให้บริการ