Keyword Difficulty Checker คือ เครื่องมือสำหรับเช็คความยากง่ายของคีย์เวิร์ด เครื่องมือชนิดนี้ เป็นตัวช่วยที่สำคัญอย่างมากสำหรับสาย SEO ที่อยากได้เทคนิคดีๆ เพื่อไปวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เพื่อทำให้เว็บไซต์มียอดเข้าชมเพิ่มสูงขึ้น แนะนำว่าไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

ทำความรู้จัก Keyword Difficulty Checker
อย่างที่ทุกคนรู้การจัดอันดับของแต่ละคีย์เวิร์ดมีความง่าย ความยากที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากการวัดค่า Google Search Results เหล่านี้ ได้ใช้ตัวชี้วัดหลายอย่างทั้ง ปริมาณการค้นหาในระดับประเทศและระดับโลก

จากนั้นจะทำการคำนวณระดับความยากในแต่ละเดือน จนถึง 12 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลต้นทุนต่อคลิก และความหนาแน่นของการแข่งขัน keyword difficulty เมื่อได้ข้อมูลต่างๆมารวมกัน จะทำให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับความยาก ความง่าย ของการแข่งขันในคีย์เวิร์ดเหล่านั้น

คุณยังสามารถเปรียบเทียบข้อมูล Keyword Research ล่าสุดกับข้อมูล Keyword Difficulty Checker ย้อนหลัง เพื่อทำความเข้าใจ ความยากของคำค้นหาเหล่านั้น ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้อีกด้วย

คุณยังสามารถเลือกสถานที่ เพื่อรับข้อมูลที่เจาะจงยิ่งขึ้น ซึ่งจะให้ข้อมูลความยากของคำค้นหาคีย์เวิร์ด ที่เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจและเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย

ดูคะแนนความยากง่ายแต่ละคีย์เวิร์ด
การดูคะแนนความยากของคีย์เวิร์ด อาจทำให้หลายคนกังวล แต่หากทำมันได้สำเร็จ มันอาจจะส่งผลดีสำหรับการทำอันดับหรือเพิ่มยอดเข้าชมให้กับเว็บไซต์ของคุณได้ ดังนั้นหากต้องการทำให้เว็บไซต์ สามารถติดอันดับคีย์เวิร์ดที่มีความยากได้ละก็ มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง

- ควรเลือกใช้โดเมนของที่ตรงกับคีย์เวิร์ดหรือโดเมนภาษาไทยที่ต้องการทำ เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการค้นหาที่มากขึ้น
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีความยากไม่มาก เพื่อนำมาใช้ในการแข่งขัน
- นำข้อมูลหรือคีย์เวิร์ดใหม่ๆเสริมลงไปในเว็บไซต์ หรือทำการเพิ่มเนื้อหาเข้าไปยังเนื้อหาเดิม โดยที่ลงรายละเอียดให้มากกว่าเดิม
ผลลัพธ์
สิ่งที่ได้หลังจากการปรับเปลี่ยน การเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มเนื้อหาให้ครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม จะทำให้อันดับของเว็บไซต์มีการเปลี่ยนแปลงและอาจเพิ่มสูงขึ้นในเวลาถัดไป
ปลดล็อกแนวคิดด้วยการใช้ คีย์เวิร์ดใหม่ๆ
เมื่อใช้เครื่องตรวจสอบระดับความยากของคีย์เวิร์ด สิ่งที่จะได้รู้ไม่ใช่เพียงแค่ระดับความยากเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวิธีหา Keyword ใหม่ๆ ที่อาจจะมีความยากน้อยกว่าและอาจทำให้คุณสามารถสร้างอันดับได้ง่ายกว่า

เพื่อให้การทำมีประสิทธิภาพที่มากกว่า ควรมุ่งเน้นการสร้างคอนเทนท์หรือการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ ใช้ Long Tail Keyword มาเป็นตัวเสริม
รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นจริง ให้ข้อมูลที่ลึกซึ้ง เพื่อทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ข้อมูลตามที่ต้องการมากที่สุด
เลือกคีย์เวิร์ดที่มีความยากมาเป็นตัวช่วย
การเลือกทำให้เว็บไซต์ติดอันดับคีย์เวิร์ดที่มีความยาก อาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่มีความยากมาเสริม อาจส่งผลดีต่อการทำเว็บไซต์
**ตัวช่วยในการหาคีย์เวิร์ด keyword research tools ยอดนิยมมีอะไรบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่**

นอกจากการเลือกคีย์เวิร์ดที่มีความยากมาเสริมเว็บไซต์ คุณต้องวิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่ง ด้วยเครื่องมืออย่าง ( SERP ) หรืออื่นๆ เพื่อดูข้อมูลต่างๆ
นำเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 10 อันดับแรกใน Google ไปเช็คข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลความน่าเชื่อถือของหน้า (Page Authority Score), โดเมนที่อ้างอิง (referring domains), รวมถึงการทำแบล็คลิงก์ ( backlinks )
วิธีนี้ช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณจะต้องทำอย่างไร เพื่อทำให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับคีย์เวิร์ดที่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น ถ้าหน้าเว็บที่ติดอันดับหลายๆหน้าบน Google มีการทำแบล็คลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีน่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่งที่สูง รวมถึงแบรนด์คู่แข่ง
การทำวิธีเดียวกับเว็บไซต์เหล่านั้น ก็อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหารบน Google ได้เช่นกัน
ซึ่งคุณสามารถเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นด้วยการใช้โหมด Domain view

สิ่งเหล่านี้จะแสดงตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับโดเมนของคุณและศักยภาพในการจัดอันดับ
**หากต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโดเมน วิธีเพิ่มค่าโดเมนทำยังไง ? มีวิธีอะไรบ้าง ไปหาคำตอบกันได้ที่นี่**
รวมถึงยังช่วยให้คุณเปรียบเทียบเว็บไซต์ของคุณ กับเว็บไซต์ที่อยู่ในผลการค้นหาได้อย่างง่ายดาย เพื่อเข้าใจโอกาสในการจัดอันดับของคุณ
แต่หากคุณเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยทำ SEO มาก่อนหรือหากต้องการตัวช่วยในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบนกูเกิ้ลแล้วละก็ ติดต่อสอบถามทีมงาน SEOGURU ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด เราพร้อมช่วยเหลือและทำให้เว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น
อยากทำให้เว็บไซต์อยู่ในลำดับต้นๆของการค้นหา อยากทำให้เว็บไซต์มียอดเข้าชมมากขึ้น แอดไลน์มาเลยที่ ไลน์@ SEOGURU !!!