Lazy Load คืออะไร ? สำคัญต่อการทำ SEO ยังไง มาเปิดประสบการณ์กัน

Lazy Load การปรับปรุงประสิทธิภาพบนเว็บไซต์ นับเป็นการพัฒนาในระหว่าง 2011- 2025 จะเข้ามาเป็นการแสดงเนื้อหาผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น ที่จะเข้ามาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้ง เดสก์ท็อป มือถือ สำหรับเว็บของคุณที่มีเนื้อหาค่อนข้างมาก นับเป็นวิธีการโหลดข้อมูลที่จำเป็นมาก่อน แสดงบนหน้าเว็บทั้ง วิดีโอ ภาพ และเนื้อหาต่างๆ โดยมาดูกันว่า คืออะไร มีเทคนิคอะไรบ้างให้กับผู้เยี่ยมชม ของคุณเป็นผู้ใช้

มาปรับช่องทางในการโหลดเว็บไซต์ เพิ่มโอกาสประสบการณ์ที่ดีเพื่อเปลี่ยนจากผู้เยี่ยมชมมาเป็นผู้ใช้งาน ตามข้อมูลที่สถิติในการเปลี่ยนแปลง โดยลด % การเพิ่มสปีดเว็บให้ลดลงจาก 40% ต่อหนึ่งวินาทีนับเป็นการโหลดให้เหลือกับลดลงเหลือ 34% ในครั้งต่อไป ซึ่งในครั้งต่อไป ให้ลด 29% ซึ่งกริ่นมาขนาดนี้ก็เริ่มอยากสงสัยกันแล้วละ มีวิธีการแก้ไขปัญหา ยังไง คืออะไร ดีต่อการทำ SEO อย่างไรกันบ้าง ?

เอาล่ะกริ่นมาขนาดนี้กันแล้วมาดู Image Lazy Loading เป็นวิธีการเร็วในการโหลดเว็บไซต์ ที่จะไม่กระทบต่อคุณภาพเนื้อหา

ทางทีมงาน SEOGURU ขออาสาพาไปทำความรู้จักกันเพิ่มเติม SEO ดียังไง ได้อย่างไร มาเข้าเรื่องกันเถอะ !!

Lazy Load คืออะไร ? เคล็ดลับลับที่ช่วยให้เว็บของคุณ โหลดไวขึ้น แบบมืออาชีพ!

คุณเคยเข้าเว็บที่ต้องรอโหลดนาน ๆ จนรู้สึกหงุดหงิดไหม? ลองจินตนาการดูว่า…ถ้าทุกอย่างในเว็บไซต์ต้องโหลดพร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่เรายังไม่ได้ดูถึงครึ่งหน้าด้วยซ้ำ มันจะกินเวลาแค่ไหน?

นี่แหละ! คือจุดเริ่มต้นของเทคนิค Lazy Load เทคนิคอัจฉริยะที่เปลี่ยนวิธีการโหลดหน้าเว็บให้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และแน่นอนว่า ช่วยเรื่อง SEO ได้แบบเห็นผล!

Lazy Load ดีไหม ?

ถ้าจะแปลให้เข้าใจง่ายที่สุด Image Lazy Loading ก็คือ การโหลดเฉพาะตอนที่จำเป็นต้องใช้ เช่น แทนที่เราจะโหลดภาพทั้งหมดของหน้าเว็บตั้งแต่เริ่มต้น Lazy Load จะเลือกโหลดเฉพาะส่วนที่ผู้ใช้งานกำลังดูอยู่บนหน้าจอเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ จะรอจนกว่าเราจะเลื่อนหน้าจอไปถึง แล้วจึงโหลดตามมา

ฟังดูเหมือนขี้เกียจ… แต่จริง ๆ แล้วนี่คือ “ความฉลาดทางเทคนิค” ที่ช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้ลื่นไหลและประหยัดทรัพยากรแบบสุด ๆ

แล้วภาพหรือวิดีโอล่ะ? มันทำงานยังไง?

ภาพหรือวิดีโอที่ยังไม่ถึงคิวแสดงผลจะถูกแทนที่ด้วย “ตัวแทนภาพ” หรือที่เรียกว่า Placeholder คุณอาจเคยเห็นภาพสีจาง ๆ หรือกรอบเทา ๆ รอโหลดอยู่ ใช่เลย! นั่นคือตัวช่วยให้หน้าเว็บไม่ต้องพยายามแบกทุกอย่างมาพร้อมกัน

เมื่อคุณเลื่อนลงมาจนถึงจุดนั้น Lazy Load ก็จะทำงาน และโหลดภาพจริง ๆ ขึ้นมา ทั้งไว ทั้งประหยัดพลังงาน ทั้งช่วยประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น

ข้อดีของ Lazy Load มีอะไรบ้าง?

อย่าลืมทดสอบการทำงานของ Image Lazy Loading บนทุกเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีจุดไหนที่หลุดจากการควบคุม

แล้ว Above the Fold คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญก่อนใช้ Lazy Load?

ก่อนที่เราจะจัดการโหลดภาพให้ฉลาดขึ้นด้วย คุณต้องเข้าใจก่อนว่า Above the Fold คืออะไร

 Above the Fold = สิ่งที่ผู้ใช้มองเห็น “ทันที” เมื่อเปิดเว็บ มันคือพื้นที่บนสุดของเว็บไซต์ที่แสดงบนหน้าจอโดยไม่ต้องเลื่อนเลยแม้แต่นิดเดียว และนี่คือจุดที่สำคัญที่สุดของเว็บ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ผู้เข้าชมจะได้เห็น

จึงมีการออกแบบเรียกว่า Critical Elements หรือในเชิงเทคนิคก็จะเรียกว่า Critical CSS Path และบอกเลยว่า อย่าใช้ Lazy Load ในส่วนนี้! เพราะคุณต้องการให้ทุกอย่างแสดงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

แล้วอะไรคือ Below the Fold?

Below the Fold คือทุกอย่างที่อยู่ ถัดจากหน้าจอแรก นี่แหละ! คือพื้นที่ที่คุณสามารถใช้ Lazy Load ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือสคริปต์อื่น ๆ

เพราะมันจะยังไม่ถูกแสดงจนกว่าผู้ใช้จะเลื่อนลงไปถึงจุดนั้น

สรุปแบบง่าย ๆ สั้นๆ อธิบายในรูปแบบตาราง

หัวข้อ	Lazy Load ทำงานยังไง?
❓ โหลดอะไรบ้าง	เฉพาะส่วนที่ผู้ใช้เห็นบนหน้าจอในขณะนั้น
🎯 ช่วยเรื่องอะไรบ้าง	เพิ่มความเร็ว ลดทรัพยากร เสริม SEO
⛔ ห้ามใช้ที่ไหนบ้าง	ส่วน Above the Fold ต้องโหลดทันที!
📱 รองรับอะไรบ้าง	มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ทุกแพลตฟอร์ม

สอนวิธีการใช้งาน lazy load กับรูปภาพ และ iframe ในโค้ค HTML

เมื่อคุณรู้แล้วว่า Image Lazy Loading มีประสิทธิภาพอย่างไร มาดูความเริ่มเติมกับ SEO ดียังไง ให้บรรลุเป้าหมาย ได้อย่างไร โดยให้คุณนำทางต่อการใช้งาน จำมีความจำเป็นการโหลดขึ้นอย่างไร ต่อหน้าเว็บ จุดเริ่มต้น จะมีวิธีการใส่ โค้ด ยังไงบ้าง ให้มีส่วนความสำคัญต่อการคลิกอย่างไรกันบ้าง มีเทคนิคกัน มาเริ่มกันเลย

วิธีการใช้งาน lazy load กับรูปภาพ

    <img loading=”lazy” src=”images/logo.png”/>

จากโค้ด HTML ข้างบน ให้เราใช้ attribute loading=”lazy” จะเป็นการโหลดรูปภาพแบบ Lazy Load image

วิธีใช้งาน lazy load กับ iframe

    <iframe loading=”lazy” src=”videos/video.mp4″></iframe>

จากโค้ด HTML ข้างบน ให้เราใช้ attribute loading=”lazy” จะเป็นการโหลดคลิปวีดีโอแบบ Lazy Load iframe หรือใช้กับการ embed youtube, tiktox, facebook fanpage ก็ได้เช่นกัน

 Lazy Loading ไม่ใช่แค่เทคนิคแต่มันคือ หัวใจ ของเว็บไซต์ยุคใหม่

ในยุคที่ความเร็วคือทุกสิ่ง เว็บไซต์ที่โหลดช้าเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้ผู้ใช้งานหันหลังกลับอย่างไม่ลังเล! และนี่แหละ… คือเหตุผลที่ Lazy Loading ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของ ประสิทธิภาพ แต่มันคือเครื่องมือลับที่ช่วยเปลี่ยน “ผู้เข้าชม” ให้กลายเป็น “ลูกค้า” ได้จริง!

เพิ่มความเร็ว เปลี่ยนความรู้สึกแรกให้ตราตรึง เวลาผู้ใช้งานคลิกเข้ามาที่เว็บของคุณ… วินาทีแรกคือช่วงเวลาทอง Lazy Loading จะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเฉพาะส่วนที่ผู้ใช้กำลังดูอยู่ ไม่ต้องโหลดทั้งหมดในทีเดียว ผลลัพธ์คือ… เว็บโหลดไวขึ้นแบบทันตาเห็น แม้จะใช้อินเทอร์เน็ตช้า!

Lazy Loading ช่วยลดการใช้ แบนด์วิธ และลด ภาระของเซิร์ฟเวอร์ ไม่ต้องเปลืองทรัพยากรโหลดรูปหรือวิดีโอที่ยังไม่ถูกเรียกดู ซึ่งนั่นแปลว่า…ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว ลดความเสี่ยงเว็บล่มเวลา Traffic พุ่ง

SEO ดีกว่าใคร เพราะ Google ก็รักเว็บที่โหลดเร็ว!

รู้ไหมว่า Google ไม่ได้ดูแค่เนื้อหา แต่มันใส่ใจ “ประสบการณ์ของผู้ใช้” ด้วย! เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว ได้คะแนน SEO สูงกว่า Lazy Loading จึงกลายเป็น หนึ่งในตัวช่วยเบื้องหลังการไต่อันดับ ไม่ว่าจะเป็นลด Bounce Rate , เพิ่ม Session Duration หรือเร่ง Page Speed

• เว็บไซต์ที่โหลดไว = มีสิทธิ์ขึ้นหน้าแรกง่ายขึ้น
• ผู้ใช้ไม่ต้องรอ = มีแนวโน้มกลับมาใช้งานซ้ำ

สรุปแล้ว… Lazy Loading คืออะไรสำหรับเว็บของคุณ?

มันไม่ใช่แค่ลูกเล่นทางเทคนิค แต่มันคือสิ่งที่ช่วยให้ เว็บของคุณดูดี มีคุณภาพ และใช้งานง่ายกว่าที่เคย

• ใส่ใจความรู้สึกของผู้ใช้งาน
• ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน
• ส่งผลดีต่อการจัดอันดับใน Google

ในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า…อย่าปล่อยให้การโหลดที่ช้าเป็นจุดอ่อนของคุณ ถ้ายังไม่เคยใช้ Lazy Loading บนเว็บไซต์ของคุณ ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่ม! เปลี่ยนเว็บธรรมดาให้กลายเป็นเว็บที่ผู้ใช้ประทับใจในทันที!

ทำ SEO กับที่ไหนดี? ความสำเร็จบนหน้าแรก Google ไม่ใช่เรื่องของโชค

หากคุณกำลังมองหาคำตอบว่า “จะเริ่มต้นทำ SEO กับใครดี?” ขอแสดงความยินดีที่คุณมาถึงจุดนี้ได้ เพราะนั่นแปลว่า… คุณเริ่มต้นเข้าใจหัวใจของการตลาดออนไลน์แล้วจริง ๆ

การพาเว็บไซต์ไปสู่หน้าแรกของ Google ไม่ได้ใช้แค่ความตั้งใจ แต่มันต้องการทั้ง ประสบการณ์ , ความรู้ลึกด้านเทคนิค และ กลยุทธ์คอนเทนต์ที่ปรับให้เหมาะกับธุรกิจคุณจริง ๆ

SEO ไม่ใช่สูตรสำเร็จ… แต่คือการเดินร่วมทาง หลายคนเข้าใจผิดว่า SEO คือการใส่คีย์เวิร์ดเยอะ ๆ Keyword Research หรือซื้อ วิธีการสร้าง Backlink เยอะ ๆ แล้วเว็บจะขึ้นอันดับเอง

แต่ในความเป็นจริง SEO คือการเดินทางระยะยาว ที่ต้องใช้ทั้ง

ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน… ให้เราช่วยคุณนะครับ หากคุณรู้แล้วว่า SEO สำคัญ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นเอง หรือ ปรึกษาการทำเว็บไซต์ ควรให้มืออาชีพช่วยดูแล

ทีม SEOGURU ของเราพร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางให้คุณ เราคือผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมทีม Tech และ SEO Content ที่เข้าใจทั้งด้าน เทคนิคต่างๆ และการตลาดอย่างแท้จริง

เราดูแลเว็บไซต์ของลูกค้า เหมือนเป็นเว็บของเราเอง ใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่การวางโครงสร้าง SEO On-Page , วิเคราะห์คู่แข่ง วางแผนคีย์เวิร์ด , ทำ Backlink SEO อย่างปลอดภัย ไปจนถึงการรายงานผลแบบโปร่งใสทุกเดือน