ในช่วงที่ผ่านมา LSI Keywords เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทำเว็บไซต์หรือผู้ที่ทำ SEO กันมากขึ้น เนื่องจาก LSI Keyword เป็นตัวช่วยรูปแบบหนึ่งที่ทำให้การเว็บไซต์อันดับของ Google ได้ดียิ่งขึ้น แต่จริงๆแล้วความหมายของ LSI ช่วยทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆของเสิร์จเอนจิ้นได้จริงไหม แล้วขั้นตอนในการทำจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง เราได้รวมคำตอบไว้ที่นี่แล้ว
LSI Keywords คืออะไร
LSI ( Latent Semantic Indexing ) คือ คำที่มีความหมายเหมือนกับคีย์เวิร์ดหลัก ไม่ใช่คำพ้องเสียง แต่เป็นคำที่มีความหมายเหมือนกันนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น แมว กับ เหมียว การเพิ่มคำเหล่านี้เข้าใจ จึงเป็นเหมือนกับการเพิ่มรีเรทหรือ Keyword ที่มีความใกล้เคียงกันเข้าไป ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ค้นหาได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยทำให้ Bot ของ Google เข้าใจเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดมากขึ้นอีกด้วย
การเพิ่มการค้นหาให้ลึกมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่ม LSI Keywords จึงช่วยทำให้ผู้ค้นหาได้ข้อมูลที่ต้องการค้นหาได้มากกว่าเดิม และทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกกูเกิ้ลจัดอันดับให้อยู่ในลำดับแรกของการค้นหา ซึ่งการเพิ่มคีย์เวิร์ดเหล่านี้เข้าไป แม้อาจจะเป็นคำที่อาจจะไม่มีค่า Search Volume จำนวนมาก แต่อาจช่วยทำให้คุณสามารถเพิ่มยอดเข้าชมของเว็บไซต์ได้ง่ายๆเช่นกัน
ความสำคัญของ LSI Keywords
ความสำคัญของ LSI Keywords คือ การช่วยให้ Google เข้าใจบริบทในเว็บไซต์มากขึ้น เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า LSI Keywords คือ คำแวดล้อมคำ Keyword หลักที่ช่วยให้ Google เข้าใจบริบทที่พูดถึงในเว็บไซต์แต่ละหน้าได้มากขึ้น ทำให้ลดปัญหาของผลการค้นหาที่ไม่ตรงกับ Search Intent ของคนใช้งานจากความกำกวมของเนื้อหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น
ข้อดีของการใช้งาน LSI Keyword
- ทำให้ Google Algorithm เข้าใจเกี่ยวกับเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น : การเสริม Related Keyword ของ Keyword หลัก ลงไปจะทำให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับภาพรวมของเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น ทำให้เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวกับอะไร ตอบโจทย์ผู้ค้นหาแบบไหน ดังนั้นเพื่อมีผู้ค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ กูเกิ้ลจะส่งเว็บไซต์ของคุณไปอยู่ในลำดับต้นๆของการค้นหา ไม่เพียงแค่นั้นการใช้วิธีแอลเอสไอ จะช่วยทำให้คุณมีคอนเทนต์เพื่ออัพเดทลงเว็บไซต์ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากการเสริม LSI Keyword ลงไป จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ และนั่นอาจจะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับคะแนนจำนวนมากจากกูเกิ้ล รวมถึงยังอาจจะถูกส่งให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับแรกๆของการค้นหาได้ง่ายๆ
- เพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์ด้วย Related Keyword : จากเดิมคุณอาจจะเลือกใช้ Main Keywords ในการทำคอนเทนต์เป็นหลัก เพื่อต้องการทำให้กูเกิ้ลเห็นว่า เว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ แต่หากต้องการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น การเลือกใช้ Related Keyword หรือ Secondary Keywords คีย์เวิร์ดรอง บวกกับการเลือกใช้ Long-Tail Keywords คีย์เวิร์ดยาว จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมได้มากขึ้น เนื่องจากเว็บไซต์ของคุณจะครอบคลุมการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคีย์เวิร์ดหลัก คีย์รอง คีย์ยาว รวมถึงคีย์ที่มีความใกล้เคียง เมื่อทำคอนเทนต์ไปพร้อมกับการเสริมคีย์เวิร์เหล่านี้ เพียงเท่านี้เว็บไซต์ของคุณก็สามารถเพิ่มยอดเข้าชม ( Traffic ) ให้กับเว็บไซต์ได้ง่ายๆแล้ว
- ลดการสแปมคีย์เวิร์ดหลัก : Keyword Density หรือ ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม จะต้องมีจำนวนคีย์เวิร์ดราวๆ 1 – 2.5% เท่านั้น หากมีจำนวนคีย์เวิร์ดที่มากจนเกินไป กูเกิ้ลอาจมองว่าเว็บไซต์ของคุณสแปมคีย์เวิร์ด และอาจจะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับคะแนนน้อย จนถูกจัดให้อยู่ในอันดับท้ายๆของการค้นหา แต่หากเลือกใช้วิธี LSI จะทำให้คุณสามารถลดการสแปมคีย์เวิร์ดได้ง่ายๆ เพียงแค่เพิ่มคำที่ใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลัก นอกจากจะเป็นการลดการสแปม ยังเป็นการเพิ่มการค้นหาให้กับผู้ค้นหาอีกด้วย
LSI Keywords ส่งผลต่อ SERP อย่างไรบ้าง
การปรับปรุงคอนเทนต์ด้วยการ LSI Keywords นอกจากจะส่งผลดีต่อการทำเว็บไซต์ ยังผลดีต่ออันดับของเว็บไซต์อีกด้วย เนื่องจาก Google จะเข้าใจเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยส่งผลต่อ SERP ด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ค้นหาได้ข้อมูลที่ตรงกับการค้นหามากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการใช้ LSI จะช่วยเพิ่มคีย์เวิร์ดที่ผู้ค้นหาต้องการให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อมีการค้นหาเว็บไซต์ของคุณจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับแรกๆของการค้นหา ตัวอย่างเช่น ค้นหาคำว่า รองเท้า สิ่งที่กูเกิ้ลจะแสดงขึ้นมาคือคีย์เวิร์ดใกล้เคียงของการค้นหา ดังนั้นหากเว็บไซต์ของคุณมีคำค้นหาที่ใกล้เคียง ก็มีโอกาสสูงผู้ค้นหาจะคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ
ทำอันดับจากคีย์เวิร์ดรองได้มากขึ้น
Related Keywords คือคีย์เวิร์ดที่มีความใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลัก ดังนั้นการเสริมคำเหล่านี้เข้าไป บวกกับการเสริม LSI เข้าไป จะทำให้เว็บไซต์ของคุณครอบคลุมการค้นหาที่ผู้ค้นหาต้องการ และเมื่อมีจำนวนผู้เข้าชมมากขึ้น ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้น
เครื่องมือในการค้นหา LSI Keywords
Google Keyword Planner
Google Keyword Planner เครื่องมือในการค้นหาคีย์เวิร์ด ที่ใช้ในการทำ Google Ads เป็นเครื่องมือที่มีความละเอียดและยังทำให้คุณได้คีย์เวิร์ดที่ต้องการอย่างครอบคลุม ที่สำคัญการค้นหา Keyword Research ยังทำได้ง่ายๆ ที่สำคัญสามารถเข้าไปค้นหาคีย์เวิร์ดได้แบบฟรีๆอีกด้วย
LSI Graph
LSIGraph คือเครื่องมือที่อีกตัวที่นอกจากจะช่วยในการหาคีย์เวิร์ดต่างๆ ยังสามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ สามารถใช้งานได้วันละ 8 ครั้งด้วยกัน โดยสามารถหาจำนวน Volume รวมถึง Trend ได้ตามที่ต้องการ แต่หากต้องการหาคีย์เวิร์ดที่มากกว่านั้น จะต้องเสียเงินเพื่อเพิ่ประสิทธิภาพของเครื่องมือ
วิธีการใช้ใช้งาน LSI Keyword
Page Title
ควรเพิ่ม LSI Keyword ไว้ในไตเติ้ลของบทความ ควรเสริมให้อยู่ในคำแรกๆของบทความ รวมถึงจะต้องเขียนให้มีความยาวไม่เกิน 50-60 ตัวอักษร เพื่อให้มีความเหมาะสมเพื่อที่คำจะได้ไม่ถูกตัด
Meta Description
ควรเพิ่มใน Meta Description คือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากทุกครั้งที่มีการค้นหา คำอธิบายเป็นสิ่งที่จะแสดงขึ้นมา ควรเพิ่ม LSI เข้าไปในคำอธิบาย รวมถึงจะต้องใส่อย่างเหมาะสม และควรอยู่ในคำแรกๆของคำอธิบาย
Headings
การเพิ่มหัวข้อย่อยด้วย LSI จะเป็นการช่วยเพิ่มความสำคัญให้กับคำเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเพื่อเป็นการขยายความให้กับคำเหล่านั้นอีกด้วย
Content
การเพิ่มคีย์เวิร์ดใกล้เคียงเข้าไปในเนื้อหา จะทำให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ แต่ไม่ควรใส่มากจนเกินไป เพราะอาจจะถูกมองว่าเป็นสแปมได้ง่ายๆ
Alt Text
Alt Text หรือ Alternative Text เป็นการเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับรูปภาพ ดังนั้นการเพิ่มภาพที่ตรงกับ LSI เข้าไป ในรูปภาพ จะยิ่งเพิ่มช่องทางในการค้นหาให้มากขึ้น
Anchor text
การเชื่อมโยงลิงก์ด้วย LSI จะทำให้คุณสามารถเชื่อมโยงบทความอื่นๆที่มีความใกล้เคียงได้มากขึ้น และยังอาจทำให้ผู้ค้นหาได้เข้าไปอ่านบทความได้ง่ายขึ้น ทำให้ทราฟฟิกการเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น
แก้ไขบทความเก่าๆ
การกลับไปแก้ไขบทความเก่าๆมีความสำคัญอย่างมาก ไม่เพียงแค่การเข้าไปเสริม LSI คีย์เวิร์ด เท่านั้น แต่ควรจะต้องเพิ่มเนื้อหาที่มีการอัพเดทใหม่เข้าไปด้วย เพื่อที่จะทำให้บทความของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
สรุป
จริงๆแล้ว LSI Keywords ไม่ใช้คีย์เวิร์ดหลักของบทความที่ทำ ดังนั้นการเลือกใช้งาน LSI จึงไม่มีตัวกำหนดหรือจำนวนในการใช้ แต่วิธีในการใช้งานที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้อย่างเหมาะสม ไม่ใส่มากจนเกินไป ใส่เฉพาะจุดที่ควรใช้ เนื่องจากการเลือกใช้ในจำนวนที่มากเกินไป จะทำให้ค่า Density มีจำนวนที่สูง และอาจจะส่งผลให้ Google มองว่าบทความนี้เป็นสแปม จนอาจจะส่งผลทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับคะแนนน้อย จนอาจจะถูกลดอันดับในที่สุด