7 เทคนิคการปรับ PageSpeed SEO ยังไงให้ไวอย่างจรวดทันใจ

PageSpeed SEO

PageSpeed SEO เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามกันการเล่นที่เว็บไซต์ของคุณให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลต่อการเปิดเว็บอย่างมาก โดยในแต่ละเว็บเพจ webpage แสดงผลการใช้งานได้อย่างลื่นไหล และไม่ปิดเว็บหนีมาดูกับมีปัจจัยต่างๆ ยังไง และมาปิดท้ายด้วยการแนะนำ 7 เทคนิคปรับเว็บยังไงให้ไวขึ้น

 วิธีการปรับแต่ง pagespeed tools เครื่องมือการปรับเว็บเพจในแต่ละหน้ายังไงให้เร็วขึ้น เพิ่มจำนวนในการคลิกเพื่อดูเนื้อหาแบบไม่ต้องรอนานกับการโหลดเว็บ ลดโอกาสในการปิดหน้าเว็บได้ ซึ่งแน่นอนมีผลต่อการ จัดอันดับ Google Search Results อีกด้วย

สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่ไม่เคยปรับปรุงในการความเร็วเว็บมาก่อนแล้วมาดูกันว่า page speed คืออะไร พร้อมมาปิดท้ายกันกับ เทคนิคปรับแต่งเว็บยังไง ให้เร็วลื่นปรื้ด ทะยานมาจากหน้าแรก เพื่อการต่อยอดการตลาดออนไลน์ ยังไงให้ถูกวิธีและมีความปลอดภัย

PageSpeed SEO มีความสำคัญยังไงบ้าง มีผลต่อการจัดอันดับ

คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดไหมคะ เวลาคลิกเข้าเว็บอะไรสักเว็บแล้วต้องรอโหลดนาน ๆ แค่ไม่กี่วินาที แต่เหมือนรอทั้งชาติ ทางทีมงาน SEOGURU จะขอพามารู้จักกับ pagespeed tools ก่อนที่จะเปิดแล้วแล้วช้า ปิดหน้าเว็บหนีไปแบบไม่ต้องลังเล จึงอยากจะบอกเลยว่า pagespeed seo นี่และที่ไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กนี้เด็ดขาด

เพราะสำหรับ Google แล้ว ความเร็วในการโหลดเว็บ คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะใช้พิจารณาว่าเว็บไซต์นั้น ๆ มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้หรือไม่ ยิ่งเว็บโหลดเร็ว คนเข้าใช้ก็ยิ่งพึงพอใจ และ Google ก็จะยิ่งให้คะแนน SEO ที่ดีขึ้น

วิธีเพิ่มคะแนน PageSpeed คืออะไร ดีไหม มีปัจจัยอะไร น่าสนใจกันบ้าง อ่านเพิ่มเติมกันเลย

7 เคล็ดลับ PageSpeed SEO

7 เคล็ดลับ ปรับสปีดเว็บไซต์ให้แรงติดจรวด เพิ่มคะแนน SEO แบบทันใจ!

อยากให้เว็บไซต์โหลดไว ติดอันดับ Google ง่าย ๆ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป! เพราะถ้าเว็บของเราช้า ต่อให้เนื้อหาดีแค่ไหน คนก็พร้อมจะกดปิดหนีในไม่กี่วินาที เสียทั้งโอกาส เสียทั้งลูกค้าแบบไม่รู้ตัว มาเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาให้กลายเป็นเว็บไวสายฟ้าด้วย 7 เทคนิคนี้กันค่ะ

  1. เคลียร์สคริปต์ เก็บแต่สิ่งจำเป็น ทุกโค้ด ทุกบรรทัด ทุกช่องว่างมีผลต่อความเร็ว! การลดขนาดไฟล์ HTML, CSS, JavaScript โดยลบสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ช่องว่าง คอมเมนต์ หรือโค้ดเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว จะช่วยให้เว็บทำงานเร็วขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจ ใช้ตัวช่วยง่าย ๆ อย่าง Toptal, JSCompress หรือถ้าใช้ WordPress ก็มีปลั๊กอินดี ๆ เช่น WP Rocket, WP Fastest Cache
  2. ใช้พลัง Cache ให้เป็นประโยชน์ Cache ช่วยให้คนที่เคยเข้าเว็บเรากลับมาอีกครั้งแล้วโหลดเร็วสุด ๆ เพราะระบบจะดึงข้อมูลเก่ามาแสดงแทนการโหลดใหม่ทั้งหมด ปลั๊กอินน่าสนใจที่ควรลอง เช่น W3 Total Cache , WP Rocket , WP Super Cache
  3. เสริมทัพด้วย CDN ถ้าอยากให้ลูกค้าทั่วโลกเข้าเว็บได้เร็วไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ต้องมี CDN ช่วย! ระบบนี้จะเก็บข้อมูลเว็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ใกล้ผู้ใช้งานที่สุด ทำให้การโหลดเร็วขึ้นมาก แบรนด์ดังที่หลายเว็บเลือกใช้ เช่น Cloudflare , Google Cloud CDN , Amazon CloudFront
  4. เลือกโหลดเฉพาะสิ่งที่จำเป็นด้วย Lazy Load ไม่ต้องให้เว็บโหลดทุกอย่างพร้อมกัน! Lazy Load จะทำให้แสดงเฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานเห็นก่อน ส่วนอื่นค่อยโหลดเมื่อเลื่อนลงไป ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรแบบสุด ๆ ปลั๊กอินที่แนะนำ: Lazy Load
  5. แก้ปัญหา Render-blocking Resources สคริปต์บางตัวในเว็บอาจทำให้เบราว์เซอร์หยุดโหลดเพื่อประมวลผล ทำให้ความเร็วของเว็บตกฮวบ! ต้องจัดการกับสคริปต์พวกนี้เพื่อให้หน้าเว็บแสดงผลได้เร็วขึ้น ลองศึกษาวิธีที่ Google แนะนำใน Remove Render-Blocking JavaScript
  6. บีบอัดรูปภาพ ลดภาระเว็บ ภาพสวย แต่ถ้าขนาดใหญ่เกินไป ก็เป็นตัวถ่วงเว็บไซต์ได้ รูปทุกรูปควรบีบอัดก่อนอัปโหลด เพื่อไม่ให้กินแบนด์วิธและพื้นที่เกินจำเป็น ตัวช่วยดี ๆ เช่น TinyPNG , Shortpixel , Imagify
  7. ปรับโฉม ยกเครื่องเว็บใหม่ทั้งระบบ! เว็บเก่าที่ใช้งานมานาน อาจเต็มไปด้วยไฟล์ขยะ โค้ดล้าสมัย และดีไซน์ไม่ทันยุค ทางออกที่ดีที่สุดอาจเป็นการ “รีโนเวท” เว็บทั้งหลัง ทั้งหน้าตาและระบบหลังบ้าน เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีใหม่และตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคนี้ เมื่อทำการปรับปรุงใหม่ คุณจะได้ทั้งเว็บเร็วขึ้น ดีไซน์น่าใช้ขึ้น รองรับ SEO มากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขายแบบไม่รู้ตัว!

เพราะความเร็วของเว็บไซต์คือหัวใจของประสบการณ์ผู้ใช้ และเป็นกุญแจสำคัญในการขึ้นอันดับ SEO ใครที่ยังละเลยเรื่องนี้ รีบกลับไปเช็คเว็บไซต์ของคุณเลยดีกว่า เพราะเว็บที่โหลดเร็ว ไม่เพียงแค่ถูกใจ Google แต่ยังถูกใจลูกค้าด้วยนะคะ

PageSpeed

กลยุทธ์ในการปรับเว็บ pagespeed seo ให้เร็วขึ้นมีปัจจัยน่าสนใจยังไง

เว็บช้า…ใครจะรอกันล่ะ ลองคิดดูนะคะ ถ้าเว็บไซต์ธุรกิจของคุณโหลดช้า ต้องรอกดอะไรสักอย่างแล้วไม่ไปไหนเกิน 3 วินาที โอกาสที่คนจะทนรอมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะกดปิดหน้านั้นทันที แล้วไปหาเว็บคู่แข่งแทน นั่นแปลว่าคุณอาจเสียลูกค้า เสียยอดขายไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ใช่แค่ความเร็วอย่างเดียวที่สำคัญ! นอกจากเรื่อง Page Speed ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจคลิกปิดหน้าเว็บแบบไม่ลังเล เช่น

  • ปุ่มต่าง ๆ กดไม่ได้ หรือใช้งานไม่ได้จริง: ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและไม่ไว้ใจเว็บไซต์
  • เนื้อหาข้อมูลไม่ตรงใจ: ไม่ตอบคำถามที่คนอยากรู้ หรือไม่มีประโยชน์กับสิ่งที่พวกเขาตามหา
  • เลย์เอาท์ใช้งานยาก: หาของไม่เจอ วางปุ่มไม่เป็นระเบียบ ทำให้ผู้ใช้สับสน

เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ นอกจากผู้ใช้จะกดปิดเว็บ ยังทำให้ค่า Bounce Rate อัตราการกดออกจากเว็บโดยไม่ได้ทำอะไรต่อ พุ่งสูงลิ่ว และถ้า Google จับได้ว่าเว็บคุณทำให้คนหนีบ่อย ก็มีโอกาสโดนลดอันดับการค้นหาบนหน้า Google แน่นอนค่ะ

คะแนนที่ส่งผลต่อในระบบค้นหา Search Engine จัดอันดับไม่ใช่ติดหน้าแรก โดยมีคะแนน Google ที่มีผลในการรวม ส่งผลดีต่อการจัดอันดับให้เว็บของคุณมาหน้าแรกใน Google

technical seo pagespeed

พาส่องเครื่องมือการค้นหา Search Engine ยอดนิยมที่ใช้งานเยอะ มีเว็บไหนบ้าง มาอ่านเพิ่มเติมกันเลย

chapters pagespeed

สรุปง่าย ๆ ที่ทำไมต้องใส่ใจ Page Speed?

  • ช่วยลดการสูญเสียลูกค้า: เพราะไม่มีใครชอบรอ
  • เพิ่มโอกาสในการขาย: เว็บไว คนเข้าก็อยากอยู่ต่อ
  • ช่วย SEO ให้ดีขึ้น: Google ให้คะแนนเว็บที่โหลดไว
  • ลด Bounce Rate: ทำให้เว็บดูน่าเชื่อถือ และใช้งานง่าย

ดังนั้น PageSpeed SEO จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ สำหรับเจ้าของเว็บอีกต่อไป เพราะมันหมายถึงโอกาสในการได้หรือเสียลูกค้าในเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น

การจัดอันดับ การเพิ่มคะแนน pagespeed seo เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีรูปแบบ onpage และ offpage รวมทั้งการทำ Backlink เพิ่มพลังให้ในการจัดอันดับ มีผลต่อการติดอันดับ SEO ยังมีเทคนิคต่างๆ ถ้าหากอยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทัก ปรึกษาเทคนิค การทำเว็บต่างๆ ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บ SEOGURU การันตีคุณภาพ สุดประทับใจ ดีกรีทีมงานมากกว่า 10 ปี ในวงการ