ในโลกของ SEO รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มักเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่ออันดับของเว็บไซต์คุณอย่างไม่รู้ตัว หนึ่งในองค์ประกอบที่มักถูกมองข้ามแต่สำคัญมากก็คือ Permalink หรือ “URL ถาวร” ของแต่ละหน้าในเว็บไซต์ของคุณ
บทความนี้ SEOGURU จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า Permalink คืออะไร, ความแตกต่างระหว่าง Permalink กับ URL Slug, และวิธีการตั้งค่า Permalink ให้ถูกหลัก SEO เพื่อให้ทั้ง Google และผู้ใช้งานชื่นชอบเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น
Permalink คืออะไร ?

Permalink ย่อมาจากคำว่า Permanent Link หรือแปลตรงตัวว่า “ลิงก์ถาวร”
หมายถึง URL แบบเต็มที่พาไปยังหน้าใดหน้าหนึ่งในเว็บไซต์ของคุณโดยเฉพาะ และคงอยู่ถาวร (ไม่เปลี่ยนแปลง)
ตัวอย่าง Permalink
- https://www.seoguru.co.th/keyword-research-seo/หา-keyword/
- https://www.example.com/blog/วิธีเขียนบทความ
ทุกหน้าบนเว็บไซต์คุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าแรก บทความ บริการ หรือหน้าติดต่อ ล้วนมี Permalink เป็นของตัวเองทั้งสิ้น
ความแตกต่างระหว่าง Permalink และ URL Slug
หลายคนอาจสงสัยว่า Permalink กับ URL Slug ต่างกันยังไง?
คำตอบคือ
- Permalink = URL แบบเต็มของหน้านั้น
- Slug = ส่วนท้ายของ URL (Path) ที่ระบุตำแหน่งเฉพาะ
ตัวอย่าง
- Permalink: https://www.seoguru.co.th/seo-knowledge/ทำ-seo-ให้ติดหน้าแรก-google/
- URL Slug: free-keyword-research
พูดง่ายๆ คือ Slug เป็นส่วนหนึ่งของ Permalink ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ตามใจ และมีผลต่อ SEO โดยตรง เพราะมันคือสิ่งที่ Google และผู้ใช้มองเห็นทันทีว่าเนื้อหานั้นเกี่ยวกับอะไร
ทำไม Permalink ถึงสำคัญกับ SEO?
การตั้ง Permalink ที่ดี ส่งผลดีต่อการจัดอันดับใน Google ด้วยเหตุผลดังนี้:
- ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น
หาก Permalink มีคีย์เวิร์ดหลัก Google จะเชื่อมโยง URL กับการค้นหาของผู้ใช้ได้ดีกว่า - เพิ่ม CTR (อัตราการคลิก)
เมื่อ URL อ่านง่าย ตรงกับคำที่ผู้ใช้ค้นหา ก็มีโอกาสที่คนจะคลิกเข้ามามากขึ้น - เสริมความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
Permalink ที่ดูสะอาด สื่อความหมายดี จะทำให้เว็บไซต์ดูเป็นมืออาชีพมากกว่า - สร้างลิงก์ที่แชร์ง่าย
URL ที่สั้นและมีความหมาย ช่วยให้การแชร์บนโซเชียลหรืออีเมลน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
ลักษณะของ Permalink ที่ดี

Permalink ที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
- สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย
เช่น /seo-guide ดีกว่า /index.php?id=2432&page=seo_fullguide_version5 - มีคีย์เวิร์ดหลักอยู่ใน URL
เช่น /วิธีทํา-seo หรือ /seo-for-beginners - ใช้ขีดกลาง (-) แทนการเว้นวรรค
หลีกเลี่ยงการใช้ _ หรือเว้นวรรคยาวๆ เพราะ Google ชอบขีดกลางมากกว่า - หลีกเลี่ยงตัวเลขหรือรหัสที่ไม่มีความหมาย
เช่น /article-003 ไม่สื่อว่าเนื้อหาคืออะไรเลย - ไม่มีคำฟุ่มเฟือย เช่น “the,” “a,” “is” เว้นแต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคีย์เวิร์ดจริงๆ
รูปแบบ Permalink ที่ควรหลีกเลี่ยง
- /index.php?page=1 → อ่านไม่ออกว่าคืออะไร
- /post-12345 → ไม่มีความหมาย
- /บริการรับทำ-seo-ราคาถูก-ดีที่สุด-ในกรุงเทพ-ปี2025 → ยาวเกินไป ไม่กระชับ
เทคนิคการตั้ง URL Slug ให้โดนใจ Google
- ใช้คีย์เวิร์ดเป้าหมาย เช่น seo-for-beginners แทน how-to-do-seo-for-new-website
- หลีกเลี่ยงคำฟุ่มเฟือย เช่น the, and, of, is
- ควรตั้ง Slug ให้ สะท้อนหัวข้อ และมีความสัมพันธ์กับเนื้อหาในหน้า
- ยึดหลัก “สั้นแต่เข้าใจได้ทันที”
ตัวอย่าง Permalink ที่ดี vs ไม่ดี
ไม่ดี | ดี |
/page?id=23 | /seo-tools |
/บทความที่-1 | /บทความ-seo-เบื้องต้น |
/product-xyz-123 | /keyboard-gaming-logitech |
สรุป Permalink มีผลต่อ SEO มากกว่าที่คุณคิด
Permalink เป็นมากกว่าแค่ลิงก์ แต่คือหนึ่งในปัจจัยที่ Google ใช้ในการวิเคราะห์และจัดอันดับเว็บไซต์ หากคุณตั้งค่า Permalink และ URL Slug ได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้
- เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ
- ค้นหาเจอง่ายขึ้น
- ได้อันดับที่ดีในหน้าแรกของ Google
- ประสบการณ์ใช้งานของผู้ชมดีขึ้น

SEOGURU ขอแนะนำให้คุณใส่ใจในการตั้งค่า Permalink ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมันคือหนึ่งใน โครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว