เมื่อคุณใช้ Search Volume ในการวางกลยุทธ์ SEO คุณจะรู้ว่าควรเลือกคีย์เวิร์ดแบบไหนเพื่อเพิ่มโอกาสติดหน้าแรก คีย์เวิร์ดไหนที่มีคนค้นหาจริงและคุ้มค่าต่อการลงทุนเวลา และคีย์เวิร์ดไหนที่แม้จะมี Volume ต่ำ แต่เหมาะกับ Traffic แบบคุณภาพสูงที่มีโอกาสเกิดการขายหรือ Conversion มากกว่า จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ และนี่คือเหตุผลที่นักทำ SEO ตัวจริง ต้องรู้จักมันให้ดีที่สุด
Search Volume คืออะไร?
คือจำนวนที่ผู้คนค้นหาคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งใน Google ภายใน 1 เดือนแบบชัดเจนและเป็นตัวเลขจริงๆ ไม่ต้องเดา
แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- High Volume (หลักหมื่น–หลักแสนการค้นหาต่อเดือน)
- Mid Volume (หลักพัน–หลักหมื่นการค้นหาต่อเดือน)
- Low Volume (หลักร้อยหรือต่ำกว่านั้นต่อเดือน)
ทำไม Search Volume ถึงสำคัญกับ SEO?
- ช่วยเลือกคีย์เวิร์ดที่คุ้มค่าที่สุด : เป็นตัวช่วยให้เลือกคำที่มีคนค้นหาอยู่จริงๆ แบบมีตัวเลขชัดเจน ทำให้ทุกบทความที่เขียนไม่สูญเปล่า แต่มีทิศทางและศักยภาพในการเติบโตบน Google อย่างแท้จริง
- ทำให้รู้โอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย : ถ้าเป็นคีย์เวิร์ดที่มี Volume สูง ก็แปลว่ามีคนกำลังค้นหาคำนั้นเยอะมาก โอกาสที่บทความคุณจะถูกคลิกก็ยิ่งมากตามไปด้วย ส่วนคีย์เวิร์ดที่ Volume ต่ำ แม้จะไม่ใช่คำยอดฮิต แต่ก็เป็นกลุ่มผู้ค้นหาที่เฉพาะเจาะจงกว่า
- ช่วยประเมินความยากของการแข่งขัน : คีย์เวิร์ดที่มี Volume สูง ก็จะดึงดูดคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้การไต่อันดับติดหน้าแรกกลายเป็นศึกหนัก แต่ถ้าคุณเจอคำที่ Volume พอดีๆ และ Keyword Difficulty ไม่สูงเกินไป เป็นโอกาสที่ทำให้เว็บคุณขึ้นหน้าแรกง่ายกว่า
วิธีเช็ก Search Volume สำหรับมือใหม่
วิธีเช็กต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและไม่งงกลางทางแน่นอน
ใช้ Google Keyword Planner
ถ้าคุณต้องการวิธีเช็กที่ง่ายที่สุดและ ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ต้องเริ่มจาก Google Keyword Planner นี่แหละ เพราะเป็นเครื่องมือจาก Google โดยตรง จึงเหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือสายทำโฆษณา เครื่องมือนี้จะให้ตัวเลขการค้นหาแบบคร่าวๆ ทำให้คุณเห็นว่าคีย์เวิร์ดไหนมีโอกาส และคีย์เวิร์ดไหนอาจยังไม่ใช่เป้าหมายที่ดีนักสำหรับเว็บคุณ
ใช้เครื่องมือ SEO
แต่ถ้าคุณต้องการความแม่นยำที่สูงขึ้น และอยากได้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับวางแผน SEO แบบจริงจังเครื่องมืออย่าง Ahrefs, SEMrush, และ Ubersuggest คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ เป็นเครื่องมือที่มีฟีเจอร์ครบเครื่อง ทั้ง
- Keyword Difficulty
- Backlink
- Content Gap
- SERP Overview
ช่วยคุณวิเคราะห์ได้ว่า คีย์เวิร์ดนี้ควรทำหรือไม่คุ้มค่า แบบไม่ต้องเดา
เทคนิคดู Search Volume ให้ไม่พลาด
- อย่าดูตัวเลขเดือนเดียว : เพราะตัวเลขอาจเพิ่ม–ลดแค่ช่วงสั้นๆ ทำให้คุณตัดสินใจพลาดง่าย
- ใช้ค่าเฉลี่ย 12 เดือน : ช่วยให้เห็นแนวโน้มจริงว่าคีย์เวิร์ดนี้ได้รับความนิยมต่อเนื่องหรือไม่
- เช็ก Seasonal Trends : บางคีย์เวิร์ดฮิตเฉพาะช่วง เช่น ของขวัญปีใหม่, ฟุตบอลโลก, หวยออกวันนี้ ถ้าเข้าใจฤดูกาลของคีย์เวิร์ด ก็วางคอนเทนต์ล่วงหน้าได้
จะเลือก Search Volume อย่างไรให้เหมาะกับเว็บไซต์?
แต่ละเว็บไซต์มีความต้องการไม่เหมือนกัน บางเว็บต้องการปริมาณคนเข้าเยอะๆ เพื่อสร้างการรับรู้ บางเว็บต้องการผู้ชมที่พร้อมซื้อจริงๆ มากกว่า และนี่คือวิธีเลือกอย่างมีชั้นเชิงและเข้าใจในพฤติกรรมผู้ค้นหา
เลือกคีย์เวิร์ด Volume สูงเมื่ออยากได้ Traffic จำนวนมาก
ถ้าเว็บไซต์ของคุณเพิ่งเริ่มต้น หรือคุณต้องการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมให้เร็วที่สุด การเลือกคีย์เวิร์ดที่มี Volume สูง คือเส้นทางลัดที่ดีมาก เพราะมันคือคำที่มีคนค้นหาจำนวนมากต่อเดือน ทำให้มีโอกาสดึง Traffic เข้ามาได้แบบระเบิดยอดวิว เหมาะกับเว็บใหม่ที่กำลังต้องการตัวเลข เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มการมองเห็นบน Google ถึงแม้การแข่งขันจะโหดกว่า แต่ถ้าคุณทำได้ติดอันดับสักหนึ่งหน้าแรก เว็บคุณจะเติบโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน
เลือกคีย์เวิร์ด Volume กลาง–ต่ำเมื่ออยากได้ Conversion
แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือ ลูกค้าที่มีคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่แค่คนเข้าเยอะ แต่พร้อมสมัคร พร้อมกดซื้อ คีย์เวิร์ดที่มี Volume กลางถึงต่ำ คือคำตอบที่ใช่ที่สุด คีย์เวิร์ดกลุ่มนี้แม้คนค้นหาไม่เยอะ แต่ความเจาะจงสูงมาก ทำให้ Conversion Rate ดีแบบชัดเจน เพราะคนที่พิมพ์คำเฉพาะเหล่านี้ส่วนใหญ่มี Intent ชัดอยู่แล้ว เหมือนลูกค้าที่เดินเข้าร้านพร้อมเงินในมือ แค่รอให้คุณปิดการขายเท่านั้น
ใช้ Long-tail Keywords ร่วมด้วย
Long-tail Keywords คืออาวุธลับของนักทำ SEO ตัวจริง มันช่วยสร้างกระแส Traffic แบบค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง แข่งขันง่ายกว่า และยังตรงใจผู้ค้นหามากกว่าอีกด้วย ยิ่งคุณใช้ Long-tail ร่วมกับคีย์เวิร์ดหลัก เว็บคุณก็จะมีเส้นทางเข้าหาหลายประตู เหมือนมีทางลัดเล็กๆ มากมายที่พาผู้ชมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ Volume จะไม่สูง แต่คุณคุ้มกว่าคำทั่วไปหลายเท่า
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Search Volume ที่มือใหม่มักเจอ
Volume สูง = ดีเสมอ?
หลายคนที่เริ่มทำ SEO มักคิดว่า คีย์เวิร์ดที่มี Volume สูงคือคำที่ดีที่สุด เพราะตัวเลขมันดูน่าดึงดูดและให้ความรู้สึกว่าเว็บต้องได้ Traffic มหาศาลแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คีย์เวิร์ดที่ Volume สูงมากๆ มักจะเป็นคำที่กว้างมาก เช่น หวย, ฟุตบอล, ดูดวง
คำเหล่านี้คนค้นหาเยอะจริง แต่เจาะจงน้อย ทำให้ยากต่อการตอบ Intent ของผู้ค้นหา และแข่งขันโหดแบบสุดๆ
ดังนั้น Volume สูงไม่ได้แปลว่าน่าทำเสมอ แต่ต้องดูว่าคำคีย์เวิร์ดนั้น ชัดเจนแค่ไหน และ ตรงกับเป้าหมายเว็บไซต์ หรือไม่ด้วย
Volume ต่ำ = ไม่ควรทำ?
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่ทำให้หลายเว็บ พลาดโอกาสทอง คือการมองว่าคีย์เวิร์ดที่ Volume ต่ำไม่คุ้มค่าต่อการทำ ทั้งที่จริง คำพวกนี้มีความเจาะจงสูงมาก คนที่พิมพ์คำเฉพาะทางเช่นนี้มักมีความต้องการที่ชัดเจนมาก เช่น
- วิธีแก้คอมเปิดไม่ติด windows 11
- เทคนิคถ่ายรูปสินค้าให้สวยด้วยมือถือ
- ทริปเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัด 7 วัน
คนที่ค้นหาคำแบบนี้ ต้องการคำตอบที่แม่นยำ ทันที และตรงจุด ทำให้ Conversion สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า หรือแม้แต่การอ่านคอนเทนต์จนจบแบบจริงจัง เพราะมันเป็น ความต้องการเฉพาะช่วงเวลา ที่อยู่ในหัวผู้ค้นหา ดังนั้น Volume ต่ำไม่ได้แปลว่าไม่คุ้มค่า ตรงกันข้าม มันคือคีย์เวิร์ดที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงผู้ชมที่ใช่ที่สุด
สรุป Search Volume สำคัญกับการทำ SEO
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณจะเห็นชัดเจนว่า Volume คือเข็มทิศที่บอกเราว่าคนกำลังค้นหาอะไร ต้องการอะไร และเราควรสร้างบทความแบบไหน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นจริงๆ ทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น วางแผนได้แม่นขึ้น และไม่ต้องเสียแรงเขียนคอนเทนต์แบบสุ่มเดาอีกต่อไป
และถ้าคุณรู้สึกว่าการทำ SEO มันซับซ้อนเกินไป ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี หรืออยากให้เว็บไซต์เติบโตแบบมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
ทีม SEOGURU พร้อมช่วยคุณทุกขั้นตอน
เราคือผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยเฉพาะ พร้อมวางกลยุทธ์ เจาะลึกคีย์เวิร์ด ปรับแต่งเนื้อหา และดูแลเว็บไซต์ของคุณให้ขึ้นหน้าแรก Google อย่างมั่นใจ