UTM ในโลกของการตลาดออนไลน์ที่หมุนเร็วแบบไม่มีพัก การรู้ว่า ลูกค้าของเราเดินทางมาจากที่ไหน ไม่ใช่แค่ข้อมูลธรรมดาอีกต่อไป แต่มันคือกุญแจทองที่ช่วยให้คุณเข้าใจเส้นทางทั้งหมดของผู้ใช้งานได้อย่างลึกซึ้ง และนี่คือบทบาทสำคัญของ UTM เครื่องมือเล็ก ๆ ที่ทรงพลังเกินตัว จนหลายแบรนด์ไม่เคยละเลยที่จะใช้มัน
วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ UTM แบบใหม่หมดจด ตั้งแต่ความหมาย ประโยชน์ ไปจนถึงเหตุผลว่าทำไมธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ถึงขาดมันไม่ได้
UTM คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงถูกยกให้เป็นไอเทมลับของนักการตลาด
UTM หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Urchin Tracking Module คือชุดตัวแปรที่เราเติมเข้าไปต่อท้าย URL เพื่อเก็บ “ข้อมูลเจาะลึกของการเข้าชมเว็บไซต์” ไม่ใช่แค่รู้ว่ามีคนคลิก แต่รู้เลยว่าพวกเขามาจากช่องทางไหน มาจากแคมเปญใด หรือคลิกผ่านอะไร

ลองนึกภาพว่าคุณนำลิงก์ของเว็บไซต์ไปวางในหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, X (Twitter), PR Website หรือเว็บบอร์ดต่าง ๆ หากไม่มี UTM คุณก็จะรู้แค่จำนวนคลิก เท่านั้น แต่เมื่อใส่ UTM ทุกอย่างจะชัดเจนเหมือนเปิดไฟกลางห้องมืด
UTM จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้นักการตลาดรู้ได้ทันทีว่า “ช่องทางไหนกำลังทำงานให้เราอยู่”
อ่านเพิ่มเติมกันกับ Blog คืออะไร <<< รับชมกันได้เลย
UTM ช่วยธุรกิจได้อย่างไรบ้าง? เหตุผลที่คุณควรเริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้
หากคุณเป็นธุรกิจที่รันกลยุทธ์การตลาดบนเว็บไซต์ควบคู่กับโซเชียลมีเดีย UTM จะเป็นเหมือนผู้นำทางที่ทำให้คุณเห็นภาพการตลาดทั้งหมดแบบทะลุปรุโปร่ง และนี่คือ 4 สิ่งสำคัญที่ UTM ทำให้คุณได้ทันที
1. รู้แบบแม่นยำว่า Traffic มาจากที่ไหน UTM ทำให้คุณระบุแหล่งที่มาของการคลิกได้แบบละเอียด ไม่ว่าจะมาจากโฆษณาโพสต์ไหน ลิงก์ที่แชร์ผ่านที่ใด หรือแคมเปญไหนกำลังพาคนเข้าเว็บไซต์มากที่สุด เหมือนมี GPS สำหรับ Web Traffic เลยทีเดียว
2. รู้ลึกกว่าเดิมว่าแต่ละคลิกเกิดขึ้นอย่างไร ไม่ใช่แค่รู้ว่ามาจากช่องทางไหน ข้อมูลระดับนี้มีค่ามากสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานในเชิงลึก แต่ยังบอกได้ด้วยว่า
- มาจากแบนเนอร์โฆษณา
- มาจากป๊อปอัป
- หรือมาจากลิงก์ในโพสต์
3. ช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ได้แม่นขึ้น และเพิ่ม ROI ได้จริง เมื่อคุณเห็นชัดว่าแคมเปญไหนกำลังทำเงิน และแคมเปญไหนกำลังเผางบ UTM มันคือข้อมูลที่ช่วยประหยัดเงิน และเพิ่มกำไรในเวลาเดียวกัน จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นว่า
- ควรเพิ่มงบตัวไหน
- ควรหยุดตัวไหน
- และควรปรับปรุงอะไรเพื่อต่อยอดให้คุ้มที่สุด
4. ทำให้คุณเข้าใจลูกค้าได้มากกว่าเดิม เมื่อข้อมูลจาก UTM ถูกนำมารวมกับ Insight จากเครื่องมือวิเคราะห์อย่าง Facebook Analytics หรือ Data Analytics คุณจะเห็นภาพพฤติกรรมลูกค้าแบบชัดเจนขึ้น นี่คือพื้นฐานของ Data-Driven Marketing แบบแท้จริง เช่น
- ลูกค้าชอบคอนเทนต์ประเภทไหน
- มักคลิกมาจากสื่อรูปแบบใด
- และคอนเทนต์ไหนกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจได้ดีที่สุด
วิธีสร้าง UTM Link แบบง่ายมากด้วย Google Campaign URL Builder
การสร้างลิงก์สำหรับเก็บข้อมูลด้วย UTM Tracking อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่มันคือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้การตลาดของคุณเฉียบคมยิ่งขึ้น แต่การพิมพ์โค้ด UTM เองทีละตัวอักษร ไม่ใช่แค่ยุ่งยาก ยังเสี่ยงพิมพ์ผิดจนข้อมูลเพี้ยนได้ง่ายมากด้วย เพราะแบบนี้เอง Google จึงได้สร้างเครื่องมือช่วยอย่าง UTM Builder ขึ้นมาให้ใช้งานฟรี ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้าง UTM Link ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับโค้ดยาวเหยียดอีกต่อไป

เพียงคุณเตรียม URL ของหน้า Landing Page ที่ต้องการเก็บข้อมูล จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ทุกอย่างก็เสร็จภายในไม่กี่คลิก!
1.วางลิงก์หน้า Landing Page
เริ่มต้นด้วยการนำ URL ที่คุณต้องการ Tracking แปะลงไปในช่อง Website URL*
นี่คือฐานสำคัญก่อนเริ่มติดแท็กต่าง ๆ มาเรียนรู้กันเพิ่มเติมกับ URL slug
2.ใส่ UTM ที่ต้องการติดตาม
เครื่องมือของ Google จะให้เรากรอก UTM หลัก ๆ อยู่ 3 ช่องที่ จำเป็นต้องมี ได้แก่
- utm_source : ช่องทางที่ลิงก์ถูกแชร์ เช่น Facebook, IG, LINE
- utm_medium : วิธีที่ผู้ใช้เจอลิงก์ เช่น banner, social, cpc
- utm_campaign : ชื่อแคมเปญ เช่น summer_sale, new_product
ลองคิดง่าย ๆ ว่า 3 ช่องนี้คือโครงกระดูกหลักของข้อมูลทั้งหมด
3.ช่องเสริมที่ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
สำหรับใครต้องการเจาะลึกมากขึ้น ยังมีอีก 2 ช่องที่เป็นตัวเลือกเสริม ได้แก่
- utm_term : คีย์เวิร์ดที่ใช้ (มักใช้กับโฆษณาแบบค้นหา)
- utm_content : เอาไว้แยกประเภทคอนเทนต์ เช่น ปุ่ม A ปุ่ม B หรือรูปภาพต่างกัน
จะกรอกหรือเว้นว่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่คุณต้องการเก็บ
4.กดเลื่อนลง แล้วคัดลอกลิงก์ UTM ได้เลย
เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว ให้เลื่อนลงไปที่ส่วน Share the generated campaign URL คุณจะเห็นลิงก์ UTM ที่สร้างขึ้นแบบอัตโนมัติ พร้อมให้คัดลอกไปใช้งานทันที ลองสังเกตส่วนประกอบของลิงก์ดู จะเห็นลำดับแบบนี้…
- เครื่องหมาย ? คือจุดเริ่มต้นของ Parameter
- เครื่องหมาย = ใช้เชื่อมประเภท UTM กับค่าที่กรอก เช่น utm_source=facebook
- เครื่องหมาย & ใช้เชื่อม UTM หลายตัวเข้าด้วยกัน เช่น utm_source=facebook&utm_medium=banner
เว็บไซต์ของคุณเริ่มใช้ UTM แล้วหรือยัง?
ถ้ายังคุณกำลังพลาดโอกาสสำคัญ ในยุคที่ข้อมูลคือพลัง ทุกการคลิก ทุกการเข้าชม และทุกเส้นทางที่ลูกค้าเดินทางผ่าน คือสมบัติล้ำค่าที่ธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้ามเลยแม้แต่วินาทีเดียว และนี่เองคือเหตุผลที่ UTM กลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดสมัยใหม่
UTM ไม่ได้เป็นแค่โค้ดตัวเล็ก ๆ ต่อท้ายลิงก์ แต่มันคือเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณ มองเห็นภาพพฤติกรรมของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้ง มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของ Traffic ช่องทางที่ทำผลงานดีที่สุด หรือแคมเปญไหนกำลังสร้างลูกค้าที่แท้จริงให้ธุรกิจของคุณ
ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล หากคุณยังมีคำถาม หรือกำลังสับสนอยู่กับการตั้งค่า UTM การวัดผล หรือการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ

คุณสามารถให้ SEOGURU ช่วยดูแลให้ทุกขั้นตอนเป็นเรื่องง่ายและถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม แค่ทักเข้ามาปรึกษา ทุกข้อสงสัยของคุณจะถูกคลี่คลาย ติดต่อได้ที่ LINE พร้อมแล้วหรือยัง ที่จะเริ่มปลดล็อกพลังข้อมูลให้กับธุรกิจของคุณ?


