เทคนิคการทำ SEO มีหลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Canonical Tag ที่เป็นตัวช่วยสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าที่ช่วยจัดการข้อมูลที่ซ้ำซ้อนออกไป หลายท่านที่ยังคงมีความเข้าใจว่า การจะทำให้ Keyword ติดหน้าแรก ก็เขียนบทความให้ที่เกี่ยวกับคำนั้นเป็นจำนวนมาก มันต้องมีสักอันที่ก้าวขึ้นไปอยู่หน้าแรกได้ แต่ทาง Google ได้มีการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับ Algorithm ออกมา ประเด็นหลักคือหากเว็บไซต์ไหนมีข้อมูลที่เหมือนกันมากเกินไป แล้วทำให้การค้นหามีความสับสน จะถูกทำให้อันดับของเว็บตกลงทันที
คนที่ดูแลเว็บไซต์ เมื่อทำไปเรื่อยๆ มีโอกาสที่จะทำเว็บและเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันออกมา รวมไปถึงบทความที่มีคำใกล้เคียงกัน ส่งผลให้บอทของกูเกิ้ล ไม่แน่ใจว่าจะควรจะให้อันดับกับเว็บไหน แน่นอนว่า Traffic จะลดลง ซึ่งปัญหานี้แก้ได้ด้วยการใช้ แท็กแคนนอนิคอล มาเป็นตัวช่วยจัดการเนื้อหาที่เหมือนกันบนเว็บของเราได้ โดย SEOGURU จะพาท่านไปทำความรู้จักกับเทคนิคนี้ว่าคืออะไร และมีวิธีการใช้งานอย่างไรบ้าง
Canonical คือ
คือ เครื่องมือใน HTML ที่ช่วยบอกเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ว่าหน้าเว็บใดเป็นต้นฉบับของเนื้อหาที่คล้ายกัน หรือที่มีลักษณะซ้ำซ้อนกัน แท็กแคนนอนิคอล ถูกนำมาใช้เพื่อลดปัญหาการจัดอันดับเนื้อหาซ้ำซ้อน (Duplicate content) ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลดคะแนนหรือไม่สามารถติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาได้ ลองจินตนาการว่าคุณมีหน้าเว็บหลายหน้าที่มีเนื้อหาเหมือนกัน หรือคล้ายกันมาก เช่น หน้าผลิตภัณฑ์ที่มี URL ต่างกันเพียงแค่การใส่พารามิเตอร์เล็กน้อย อย่าง example.com/product?color=red และ example.com/product?color=blue แม้ว่าเนื้อหาของทั้งสองหน้าจะคล้ายกัน แต่ URL ต่างกัน ทำให้ Google มองว่าเป็นหน้าที่แตกต่างกัน แท็กแคนนอนิคอล จะช่วยบอก Google ว่า หน้านี้คือเวอร์ชันต้นฉบับ โปรดจัดอันดับหน้านี้แทนที่จะเป็นหน้าที่ซ้ำกัน
สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO
แท็กแคนนอนิคอล มีความสำคัญอย่างมากต่อ SEO เพราะช่วยลดปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน ทำให้เครื่องมือค้นหาสามารถระบุหน้าเว็บที่สำคัญที่สุดและจัดอันดับได้อย่างถูกต้อง หากคุณมีเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีเนื้อหาจำนวนมาก การใช้ แท็กแคนนอนิคอล เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยในการจัดการและป้องกันปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บไซต์ eCommerce ที่มีหน้าสินค้าจำนวนมาก เพราะจะช่วยลดปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อนจากการใช้ URL ต่างๆ และทำให้การจัดอันดับในเครื่องมือค้นหาดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ
ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO แนะนำให้ใช้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน และเพิ่มโอกาสในการได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น มีเครื่องมือหลายอย่างที่ช่วยในการตั้งค่า Canonical คือ Yoast SEO สำหรับ WordPress หรือการใช้เครื่องมือของ Google เพื่อช่วยตรวจสอบและตั้งค่า แท็กแคนนอนิคอล อย่างถูกต้อง
วิธีการสร้าง Canonical Tag
การใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่เพิ่ม <link rel=”canonical” href=”URL”> ลงใน <head> ของหน้า HTML ของคุณ โดย URL ควรเป็น URL ที่คุณต้องการให้เครื่องมือค้นหาจัดอันดับเป็นหลัก การตั้งค่าอย่างถูกต้องสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ ได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหา และช่วยลดปัญหาการเสียคะแนนจากเนื้อหาซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยให้การรายงานผลใน Google Analytics แม่นยำมากขึ้น เพราะไม่มีการนับจำนวนครั้งที่เข้าชมจาก URL ที่ซ้ำกัน ทำให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อคุณได้ทำการเพิ่มลงในหน้าเว็บของคุณแล้ว สิ่งสำคัญถัดไปคือการตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Search Console เพื่อดูว่าเครื่องมือค้นหาเข้าใจการตั้งค่าของคุณหรือไม่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ปลั๊กอินสำหรับเบราว์เซอร์ที่ช่วยแสดง แท็กแคนนอนิคอล บนหน้าเว็บ เพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าทำงานได้อย่างถูกต้อง
ควรใช้งาน แท็กแคนนอนิคอล ตอนไหน
- เมื่อมีหน้าสำรองหรือหน้าชั่วคราว ที่สร้างขึ้นเพื่อการทดสอบหรือการแสดงผลในช่วงเวลาสั้นๆ ในกรณีนี้ การใช้ แท็กแคนนอนิคอล เพื่อชี้ไปยังหน้าต้นฉบับจะช่วยป้องกันไม่ให้หน้าชั่วคราวเหล่านี้ถูกจัดอันดับและสร้างปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน
- หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาในหลายภาษาและมี URL ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละภาษา คุณสามารถใช้เพื่อบอกเครื่องมือค้นหาว่าเนื้อหาภาษาใดเป็นต้นฉบับ
- เมื่อมีการแสดงผลบนหลายอุปกรณ์ อาจทำให้เกิด URL ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละอุปกรณ์ การใช้ แท็กแคนนอนิคอล ช่วยบอกว่า URL ใดเป็นต้นฉบับเพื่อให้การจัดอันดับเป็นไปอย่างถูกต้อง
- เมื่อมีหน้าเว็บที่คล้ายกันมาก เช่น บล็อกโพสต์ที่มีเนื้อหาคล้ายกันหรือหน้าแสดงผลผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย
สรุป
การทำ แท็กแคนนอนิคอล เป็นการบอกกับ Search Engine ให้รู้ว่าหน้าเว็บไหนคือหน้าเพจหลักที่เราต้องการให้ Google มา Index เพื่อเป็นการไม่ให้ซับซ้อนในการทำอันดับกับหน้าเพจอื่นที่มีเนื้อหาคล้ายกัน และจะทำให้การทำ SEO ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุด ก่อนจะลงข้อมูลหรือเนื้อหาใดๆลงในเว็บเพจ วางทำการวางแผนเขียนคอนเทนต์ เพื่อไม่ให้ Keyword ซ้ำกัน เพราะปัญหาที่จะตามมาจะใช้เวลาในการกู้พอสมควร แต่ถ้าหากท่านไม่อยากจัดการหน้าเว็บเพจด้วยตนเอง ปรึกษา SEOGURU ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ รับประกันว่าจะพาให้เว็บของคุณไปสู่หน้าแรกให้ได้