Keyword เป็นหัวใจสำคัญในการเขียนบทความลงบนเว็บไซต์ แต่ในปัจจุบันการจะทำให้คอนเทนต์ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจที่มีรูปแบบคล้ายกันอยู่มาก ก็ทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ซึ่งเรื่องที่ SEOGURU ต้องการจะนำเสนอในวันนี้คือ Google Keyword Planner ที่เป็นเครื่องมือในการช่วยหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมให้กับธุรกิจของคุณและจะส่งผลให้บทความของเราติดอันดับดีผ่านการทำ SEO
เราไม่สามารถรู้ว่าลูกค้าเลือกใช้คีย์เวิร์ดไหนในการค้นหาผ่าน Search Engine เพราะฉะนั้นเครื่องมือที่จะมาช่วยค้นหาคำที่อิมแพ็คต่อแบรนด์ของคุณคือคำไหนจึงมีความสำคัญมากๆ เพราะจะเป็นการต่อยอดให้คุณได้สร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย และเครื่องมือที่เราจะมากล่าวถึงกันในวันนี้ เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาทเดียว เราไปทำความรู้จักกันได้เลย
Google Keyword Planner คืออะไร
คือเครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดของ Google เป็นเครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดฟรี ที่พัฒนาโดย Google ช่วยให้นักการตลาดค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ปริมาณการค้นหา ประเมินการแข่งขัน และวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำ Keyword Research จะช่วยให้การเขียนบทความของเราติดอันดับดีของ Google อย่างแน่นอน และเครื่องนี้จะช่วยให้การทำงานของ การทำการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น SEO, SEM หรืออย่าง Google Ads รู้ถึงความต้องการของผู้บริโภค รู้ทันกระแสที่กำลังมาในสื่องสังคมออนไลน์ ไปจนถึงจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ของเราอีกด้วย
ประโยชน์ของ Google Keyword Planner
- ค้นหา Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาสูง
Keyword Planner ช่วยให้คุณค้นหา Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาสูง ซึ่งหมายความว่าคำเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะนำผู้เข้าชมมายังเว็บไซต์ของคุณ
- วิเคราะห์การแข่งขันของ Keyword
นอกจากการค้นหาคำหลักแล้ว Keyword Planner ยังช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์การแข่งขันของคำเหล่านี้ได้ ทำให้คุณสามารถเลือกใช้คำหลักที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุด
- คำแนะนำ Keyword ที่เกี่ยวข้อง
Keyword Planner ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับคำหลักที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่คุณค้นหา ช่วยให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและโฆษณาที่น่าสนใจ
เทรนด์การใช้ Google Keyword Planner ในปีนี้
ปีนี้ Google ปรับระบบการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดให้ ฉลาดขึ้นกว่าที่เคย เพราะไม่ได้ดูแค่คำที่คนค้นเยอะ แต่ยังวัดจาก เจตนาการค้นหา (Search Intent) ของผู้ใช้ด้วย เช่น
ต้องการข้อมูล → Informational
ต้องการเปรียบเทียบ → Comparative
ต้องการซื้อ → Transactional
นอกจากนี้ Google ยังเริ่มผสานระบบ AI อย่าง Gemini และ Search Generative Experience (SGE) เข้ามาใน Keyword Planner เพื่อช่วยแนะนำคีย์เวิร์ดที่กำลังจะมาแรง
หมายความว่า คุณสามารถเห็นแนวโน้มก่อนใคร และสร้างคอนเทนต์นำหน้าคู่แข่งได้อย่างชาญฉลาด
ใช้ AI กับ Keyword Planner เพื่อผลลัพธ์ SEO ที่เหนือกว่า
ยุคนี้นักการตลาดไม่ใช้แค่เครื่องมือเดียวอีกต่อไป เพราะ AI สามารถช่วยขยายไอเดียคีย์เวิร์ดได้อย่างมหาศาล
คุณสามารถใช้ Google Keyword Planner ควบคู่กับเครื่องมืออย่าง
- Ahrefs หรือ Semrush เพื่อดู Backlink และคู่แข่ง
- SurferSEO เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาที่มีโอกาสติดอันดับ
- หรือแม้แต่ใช้ ChatGPT / Gemini เพื่อขยายชุดคีย์เวิร์ดใหม่ ที่ยังไม่ถูกใช้บ่อย
การใช้หลายเครื่องมือร่วมกันจะช่วยให้กลยุทธ์ SEO ของคุณ แม่นยำ เร็ว และทรงพลัง ยิ่งกว่าเดิม
คู่มือการใช้ google keyword planner
เมื่อเราได้แนะนำให้ท่านรู้จักว่าเครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดของ Google คืออะไร ท่านก็คงจะสงสัยว่าแล้ว keyword planner วิธีใช้ ต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหนเราเลยนำ คู่มือนี้จะเป็นการแนะนำวิธีใช้ กูเกิ้ล Keyword Planner ทีละขั้นตอน ไปดูกันเลยว่ามีอะไร
เข้าสู่ Google Keyword Planner
- ไปที่เว็บไซต์ https://ads.google.com/home/tools/keyword-planner/
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ของคุณ หากยังไม่มีบัญชี คุณสามารถสมัครใช้งานได้ฟรี
เลือกโหมดการวางแผน มีให้เลือกสองแผนการค้นหา ดังนี้
- Discover New Keywords เป็นเครื่องมือช่วยให้นักการตลาดค้นพบไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ๆที่กำลังเป็นกระแสในเวลานั้นๆให้เหมาะกับธุรกิจ, สินค้าหรือบริการได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จะมุ่งเน้นไปที่การค้นพบไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ๆ จากข้อมูลที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการขยายฐานคีย์เวิร์ด เพราะทำให้คุณได้รู้ Keyword ที่คุณอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆได้อีกด้วย ที่สำคัญคือประหยัดเวลาในการค้นหาคีย์เวิร์ดด้วยตัวเอง เครื่องมือจะแสดงรายการคีย์เวิร์ดที่แนะนำ พร้อมข้อมูลปริมาณการค้นหา และระดับการแข่งขัน เพราะการใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ ดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ และเพิ่มยอดขายป้อนคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อ
- Get Search Volume and Forecasts คือฟีเจอร์นี้ช่วยให้นักการตลาดวิเคราะห์ปริมาณการค้นหาเฉลี่ยต่อเดือน แนวโน้มการค้นหา ระดับการแข่งขัน และคาดการณ์ประสิทธิภาพเบื้องต้นของแคมเปญโฆษณาเมื่อใช้คีย์เวิร์ดที่เลือกไว้ โดยจะแสดงผล จำนวนครั้งที่คาดว่าผู้ใช้จะค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นต่อเดือน ข้อมูลนี้เป็นค่าประมาณ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ภูมิภาค ภาษา และอุปกรณ์ที่ใช้ และมีกราฟแสดงแนวโน้มการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นตลอดทั้งปี ช่วยให้คุณดูว่าความนิยมของคีย์เวิร์ดเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลหรือไม่ บอกระดับความยากง่ายในการจัดอันดับบนหน้าแรกของผลการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดนั้น โดยแบ่งเป็นระดับต่ำ ปานกลาง และสูง รวมไปถึงบอกจำนวนการคลิกที่คาดว่าจะได้รับบนโฆษณา เมื่อใช้คีย์เวิร์ดนั้น และตัวข้อมูลจะบอก CPC, daily budget และ CTR ด้วย
บันทึกคีย์เวิร์ด
- คุณสามารถบันทึกคีย์เวิร์ดที่ต้องการลงในแผนของคุณ เพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติม หรือการวางแผนกลยุทธ์การตลาด
ดาวน์โหลดข้อมูล
- คุณสามารถดาวน์โหลดข้อมูลคีย์เวิร์ดในรูปแบบ CSV เพื่อนำไปใช้กับโปรแกรมอื่นๆ
ใช้ Keyword Planner ทำ Local SEO ให้ปัง
หนึ่งในเทรนด์สำคัญของปีนี้ คือ Local SEO เพราะ Google เน้นผลลัพธ์ตาม พื้นที่ของผู้ค้นหา มากขึ้น
อยากให้ร้านคุณขึ้นเวลาคนพิมพ์ว่า “ร้านอาหารไทย กรุงเทพฯ” หรือ “ช่างภาพงานแต่ง เชียงใหม่”?
Keyword Planner สามารถช่วยได้
เพียงกรองข้อมูลด้วย “Location” และ “Language” คุณจะเห็นว่าคนในแต่ละพื้นที่ค้นหาอะไรบ่อยที่สุด ซึ่งสามารถใช้ต่อยอดได้ทั้ง SEO และโฆษณาแบบเจาะจงพื้นที่
แปลงคีย์เวิร์ดให้กลายเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณค่า
เมื่อได้คีย์เวิร์ดมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การจัดกลุ่มคีย์เวิร์ด หรือ Keyword Mapping เพื่อวางแผนทำคอนเทนต์ให้สัมพันธ์กัน เช่น
Informational → บทความให้ความรู้
Comparative → รีวิวหรือเปรียบเทียบ
Transactional → หน้าโปรโมชัน / หน้าขาย
ลองสร้าง Content Cluster Map เพื่อเชื่อมโยงทุกคีย์เวิร์ดเข้าด้วยกัน เหมือนใยแมงมุม SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณแข็งแรงและไต่อันดับได้เร็วกว่าเดิม
ทริคการใช้ Keyword Planner แบบมืออาชีพ
ในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จนั้น เครื่องมือ Keyword Planner ถือเป็นผู้ช่วยที่ขาดไม่ได้ แต่การใช้เครื่องมือนี้ให้ได้ผลแบบมืออาชีพนั้นต้องการเทคนิคและเคล็ดลับที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างสูงสุด ต่อไปนี้เป็น 4 ทริคที่มืออาชีพมักใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ กูเกิ้ล Keyword Planner
- การใช้คีย์เวิร์ดระยะยาว (Long-Tail Keywords)
การเลือกใช้คีย์เวิร์ดระยะยาวเป็นวิธีที่ดีในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น แทนที่จะใช้คำว่า “รองเท้า” คุณสามารถใช้คำว่า “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง” คีย์เวิร์ดระยะยาวนี้มักมีการแข่งขันต่ำและมีโอกาสสูงที่จะทำให้เนื้อหาของคุณขึ้นอันดับได้ง่ายขึ้น
- การใช้ฟังก์ชั่นตัวกรองเพื่อหาโอกาสใหม่
Keyword Planner มีฟังก์ชั่นตัวกรองที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้น เช่น การกรองตามปริมาณการค้นหา การแข่งขัน หรือราคาเสนอแนะสูงสุด ใช้ฟังก์ชั่นเหล่านี้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีโอกาสสูงในการทำอันดับของ SEO
- การวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อหาแรงบันดาลใจ
การดูคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการหาแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ๆ ในการทำ SEO คุณสามารถใช้ Keyword Planner เพื่อดูว่าคู่แข่งของคุณใช้คีย์เวิร์ดอะไรและคุณสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้ในกลยุทธ์ของคุณได้
- การปรับปรุงและติดตามผลเป็นระยะ
การติดตามผลการใช้งานคีย์เวิร์ดเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ ตรวจสอบว่าคีย์เวิร์ดใดที่ทำงานได้ดีและคีย์เวิร์ดใดที่ไม่ทำงาน จากนั้นปรับปรุงคีย์เวิร์ดและกลยุทธ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อัปเดตพลังคีย์เวิร์ด + คอนเทนต์คุณภาพ + AI SEO
ปัจจุบัน SEO ไม่ได้จบแค่การหาคีย์เวิร์ดดีๆ อีกต่อไป
แต่คือการ เข้าใจคน + ใช้ข้อมูลจาก AI + เขียนคอนเทนต์ที่มีคุณค่า
เพราะ Google กำลังให้ความสำคัญกับ Experience – Expertise – Authoritativeness – Trustworthiness (E-E-A-T) มากกว่าที่เคย
ดังนั้น หากอยากให้เว็บไซต์ของคุณ ติดหน้าแรกแบบยั่งยืน
เริ่มจากคีย์เวิร์ดที่ใช่ และคอนเทนต์ที่ตรงใจคนค้นหา
สรุป วางแผนคีย์เวิร์ดให้ได้ผล ต้องเข้าใจเทรนด์
Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการช่วยให้การทำ SEO ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณมีการเข้าถึงที่ดีขึ้นและได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม การใช้เครื่องหาคีย์เวิร์ดนี้ คือคำตอบที่คุณตามหา แต่ถ้าคุณอยากให้มือโปรจริงๆ มาดูแลในเรื่องตรงนี้ให้กับธุรกิจของคุณ SEOGURU เป็นหนึ่งผู้ให้บริการทางด้านการทำ SEO แบบครบวงจร ปรึกษาฟรี ติดต่อผ่านไลน์ จะสะดวกที่สุด