ปัจจุบันเว็บบราวเซอร์ Chrome นั้นถือว่าเป็น เครื่องมือ seo ในการที่จะทำให้ใช้งานได้หลากหลายโปรแกรม และแน่นอนว่าแต่ละโปรแกรมก็จะมีความแตกต่างกันออกๆไป แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนช่วยสำคัญ ที่จะทำให้การทำอันดับเว็บนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าการทำอันดับนั้นจะต้องมีเครื่องมือที่เยอะมากไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมต่างๆ รวมไปถึงเครื่องมือการวัดผล ที่จะทำให้ทุกท่านได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม ผ่านการใช้งาน Extention บอกเลยว่าเปิดให้โหลดใช้งานฟรีๆ แบบไม่ต้องเสียเงิน
เครื่องมือ seo ตัวช่วยสำคัญ ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น
โดยมีนักทำเว็บหลายท่าน ที่ยังไม่รู้ว่าเว็บ Chrome นั้นเปิดให้ใช้งาน ส่วนขยาย ที่จะทำให้เว็บบราวเซอร์นั้นใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในทุกวันนี้ส่วนขยายหรือ เครื่องมือช่วยทำ SEO ที่จะเอาไว้ใช้งานสำหรับการทำ SEO นั้นก็มีมากมายหลายประเภท และบางอันก็ช่วยทำให้การทำงานนั้นไวมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการช่วยลดขั้นตอนในการทำงานได้เป็นอย่างดี และในวันนี้เราก็จะมาแนะนำ Tools ที่นักทำเว็บไซต์ ควรมีติดเครื่องเอาไว้ มาฝาก บอกเลยว่าจะช่วยทำให้คุณรู้ข้อมูลพื้นฐานได้อย่างละเอียด และถ้าหากสนใจอยากจะติดตั้งโปรแกรมไหน ก็สามารถโหลดใช้งานได้แบบฟรีๆ
10 เครื่องมือทํา seo ที่ควรมีติดเครื่องเอาไว้
แม้ว่าการทำ seo นั้นจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่ถ้าหากเรามีเครื่องมือในการทำ ก็จะทำให้การทำนั้นทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่าวันนี้พวกเราทีมงานแอดมินเองก็จะพาทุกท่านไปดูกันว่า เครื่องมือ seo ที่พวกเราจะนำมาแนะนำในวันนี้นั้นมีอะไรบ้าง บอกเลยว่าควรมีติดเครื่องเอาไว้เลย
1.Lighthouse Extension- Speed Reports
สำหรับเครื่องมือตัวนี้ เอาไว้สำหรับดูว่า Page Speed นั้นมีความเร็วกี่คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตัว Tools ที่ใช้งานง่ายเป็นอย่างมาก แต่ตัวนี้จะสามารถกดดูได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะกดรายงานออกมาเป็นไฟล์ได้นั่นเอง
2.Meta in 1 Click เครื่องมือเช็กข้อมูล SEO เบื้องต้นแบบรวดเร็ว
หนึ่งในเครื่องมือที่คนทำ SEO สาย On-page ควรมีติด Chrome เอาไว้คือ Meta in 1 Click ส่วนขยายเล็ก ๆ ที่มีประโยชน์มาก เพราะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูล SEO พื้นฐานของหน้าเว็บได้ภายใน “คลิกเดียว” ไม่ต้องเปิด Inspect หรือใช้โปรแกรมซับซ้อนให้เสียเวลา
เพียงแค่กดไอคอน Meta in 1 Click บนแถบเครื่องมือของ Chrome ก็สามารถดูข้อมูลสำคัญทั้งหมดได้ทันที เช่น
- ชื่อหน้า (Title Tag)
- คำอธิบาย (Meta Description)
- คีย์เวิร์ดหลักที่ใส่ไว้ใน Meta
- Canonical URL
- Heading Tags (H1–H6)
- ความยาวของ Title และ Description เพื่อดูว่าสอดคล้องกับเกณฑ์ SEO หรือไม่
สิ่งที่ทำให้เครื่องมือนี้โดดเด่นคือความ เรียบง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหลายแท็บหรือใช้โปรแกรมวิเคราะห์ที่ซับซ้อน เหมาะมากกับนักทำ SEO มือใหม่ที่อยากตรวจเช็กโครงสร้างเว็บไซต์ก่อนเริ่มปรับแต่ง
และแม้จะเป็นเครื่องมือฟรี แต่ Meta in 1 Click ก็มีประโยชน์มากสำหรับการตรวจสอบคุณภาพของบทความก่อนเผยแพร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องเขียนเนื้อหาหลายหน้าในแต่ละวัน เช่น Blogger, Content Writer หรือเจ้าของเว็บไซต์ที่ดูแลเว็บด้วยตัวเอง เพราะคุณสามารถใช้ดูได้ทันทีว่าเนื้อหาที่จะโพสต์นั้นมี Meta ครบถ้วนหรือยัง และแต่ละหน้าเว็บมีโครงสร้างตรงตามหลัก SEO หรือไม่
3.Web Developer Plugin
สำหรับเครื่องมืออันนี้นั้นจะช่วยทำให้ทุกท่าน ลงลึกไปถึงเรื่องของ เทคนิค การใช้งานโค้ด ดังนั้นแล้วคนที่เข้าใจเรื่องโค้ด ก็จะใช้งานได้อย่างทันที โดยสามารถที่จะจัดหมวดหมู่ของ HTML ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวโปรแกรมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
4.Tag Assistant ตัวช่วยตรวจสอบ Google Tag และ Conversion อย่างแม่นยำ
อีกหนึ่งเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับสาย Marketing และ SEO คือ Tag Assistant (by Google) ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Google เอง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่า Tag ต่าง ๆ ที่ติดตั้งบนเว็บไซต์ (เช่น Google Analytics, Google Ads, หรือ Tag Manager) ทำงานถูกต้องหรือไม่
Tag Assistant จะทำหน้าที่ตรวจสอบและรายงานว่าโค้ดที่ติดบนเว็บไซต์ของคุณนั้น “ยิงข้อมูลสำเร็จหรือไม่” เช่น
- Google Analytics Tag ทำงานหรือไม่
- Conversion Tracking ถูกส่งค่าถูกต้องหรือไม่
- Remarketing Tag ของ Google Ads มีการแสดงผลหรือไม่
- Tag Manager เชื่อมโยงข้อมูลได้ครบหรือเปล่า
หากมีข้อผิดพลาด เช่น Tag ซ้ำ, Tag ไม่ทำงาน, หรือการตั้งค่าผิด เครื่องมือนี้จะแจ้งเตือนให้คุณทราบทันทีผ่านหน้าต่าง popup ช่วยให้คุณแก้ไขได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการเก็บข้อมูลการตลาดอย่างแม่นยำ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังรันแคมเปญ Google Ads แล้ว Tag Conversion ไม่ยิงข้อมูล การโฆษณาทั้งหมดจะวัดผลผิดเพี้ยนทันที ดังนั้น Tag Assistant จึงเปรียบเสมือน “ผู้ช่วยตรวจสุขภาพเว็บไซต์” ที่คอยบอกว่าระบบติดตามของคุณทำงานสมบูรณ์หรือยัง
5.Google Analytics Debugger
เครื่องมือตัวนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้ทุกท่านตรวจสอบได้ทันทีว่า หน้าเพจไหนมีโค้ดที่ผิดบ้าง หรือหน้าเพจไหนเกิดข้อผิดพลาด ก็สามารถที่จะใช้โปรแกรมนี้ได้ทันที แต่ก็ต้องเป็นคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโค้ดพอสมควร
6.Observe Point – Tag Debugging
ถ้าหากใครที่เป็นสาย analytics ก็บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดเครื่องมือตัวนี้ เพราะสามารถที่จะตรวจสอบ Tag ของหน้าเพจได้ แถมยังมีรายละเอียดให้ดูแบบครบถ้วนอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเกิดตรงไหนมีข้อผิดพลาด ทำงานไม่ตรง ก็จะสามารถดูได้อย่างทันที
7.SEO Minion
หนึ่งในเครื่องมือทำ seo ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องนี้นี้มีวิธีการใช้งานที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังให้ข้อมูลที่ครบถ้วนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ เช็คลิงก์ , On page – SERP Preview และอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นข้อมูล ทำให้เราสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้อย่างละเอียด
8.SEOquake
เป็นเครื่องมือที่มีคนใช้งานมากที่สุด ในการทำ seo เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถจะแสดง อันดับของเว็บไซต์จาก Google ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วก็ยังสามรถที่จะ วิเคราะห์ Keyword , backlink และ internal link ได้อย่างทันที ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมที่ครบเครื่องเป็นอย่างมาก
9.SimilarWeb
ถ้าหากใครที่ชอบการวิเคราะห์เว็บ ไม่ว่าจะของตัวเอง หรือคู่แข่ง เครื่องมือตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะว่าสามารถที่จะเช็คข้อมูลเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด แถมยังโชว์ข้อมูลให้เห็นเยอะมาก แน่นอนว่าการแสดงผลมีทั้งแบบ Global และ แบบในประเทศ ซึ่งบอกเลยว่าทำให้เรานำไปวิเคราะห์ต่อได้ทันที
10.MozBar
เครื่องมือตัวนี้ เอาไว้ใช้สำหรับเช็คคะแนน DA/PA ของแต่ละเว็บไซต์ ว่ามีคะแนนเท่าไหร่บ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยทำให้เรารู้ได้ว่าแต่ละเว็บไซต์ หรือหน้าเพจ นั้นมีคะแนนเท่าไหร่ แนะนำเลยว่าควรมีติดเอาไว้
ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็น เครื่องมือ seo ที่จะทำให้ได้รับความสะดวกสบาย มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะใครที่เป็นสายโค้ด เข้าใจพวกโค้ดต่างๆเป็นอย่างดี การใช้ tools ที่พวกเรานำมาแนะนำ ก็ถือว่าจะทำให้การทำงาน ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าบางตัวจะแอบใช้งานยากอยู่บ้าง แต่บอกได้เลยว่าถ้าหากได้ลองใช้ดู ก็จะติดใจอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยทำให้งานได้ไวขึ้นแล้ว ยังใช้งานได้ฟรีทุกเครื่องมืออีกด้วย แต่ถ้าหากใครที่ไม่อยากทำอันดับเว็บเอง ก็สามารถมาใช้บริการกับทางเว็บ seoguru ได้ตลอดเวลา การันตีเว็บไซต์ของคุณ จะติดอันดับง่ายขึ้นกว่าเดิม
สรุป รวมเครื่องมือ SEO ยุคใหม่ที่คนทำเว็บไซต์ควรมี
จากอดีตที่เราต้องเปิดหลายโปรแกรมเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล SEO ปัจจุบันแค่ติดตั้งส่วนขยายไม่กี่ตัวบน Chrome ก็สามารถจัดการงาน SEO ได้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ Meta Tag ด้วย Meta in 1 Click, การเช็กการยิง Conversion ด้วย Tag Assistant, หรือการดูคะแนนเว็บไซต์ด้วย SEOquake และ Lighthouse
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นักทำ SEO ทั้งมือใหม่และมืออาชีพสามารถวิเคราะห์ ปรับปรุง และตรวจสอบเว็บไซต์ได้สะดวกขึ้นแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการดูแลเว็บไซต์ด้วยตัวเอง หรือทีมการตลาดที่อยากทำงานรวดเร็วขึ้น
และหากคุณอยากให้ทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล SEO อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การวิเคราะห์โครงสร้างเว็บไซต์ ไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทำอันดับระยะยาว SEOGURU ก็พร้อมให้คำปรึกษาและจัดการทุกขั้นตอนให้ครบจบในที่เดียว เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณพร้อมแข่งขันในทุกคีย์เวิร์ดบน Google อย่างแท้จริง