WordPress Website Builders ตัวช่วยในการสร้างเว็บไซต์เวิร์ดเพลสใหม่ ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม WordPress ให้บริการจำนวนมาก หากต้องการสร้างเว็บไซต์แบบง่ายๆ เราได้รวม 7 ตัวสร้างเว็บไซต์ WordPress ที่นอกจากจะได้รับความนิยมสูง ตัวสร้างเว็บไซต์เวิร์ดเพลสแต่ละอัน ยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่าง ที่บอกเลยว่าใครกำลังมองหาตัวช่วยในการสร้างเวิร์ดเพลส ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
WordPress Website Builders คืออะไร ?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวสร้างเว็บไซต์เวิร์ดเพลส (WordPress Website Builders) แตกต่างจากตัวสร้างหน้าหรือ Page Builder ทั่วไป ตัวสร้างเว็บไซต์รูปแบบนี้ ครอบคลุมมากกว่าการสร้างและแก้ไขโพสต์หรือหน้าเว็บไซต์ มีการทำงานคล้ายกับธีมที่รองรับการแก้ไขเว็บไซต์ทั้งหมด (Full Site Editing) ช่วยให้คุณสามารถสร้างเมนู , ส่วนหัว (Header) , ส่วนท้าย (Footer) และเทมเพลตธีมอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7 สุดยอด WordPress Website Builders ในปี 2024
การทำงานของตัวสร้างเว็บไซต์ WordPress ที่ดีที่สุดที่เราจะทำการแนะนำ ได้พิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการ อย่างแรกคือต้องมั่นใจว่าใช้งานง่ายในระดับที่เหมาะสม ประการที่สองมีฟีเจอร์อย่างตัวแก้ไขแบบลากและวาง (drag-and-drop editor) มีความสามารถในการสร้างเทมเพลตธีม และได้รับรีวิวที่ดีจากผู้ใช้งาน ประการสุดท้าย มาพร้อมชุดเทมเพลตแบบครบชุด เพื่อให้ผู้ใช้งานมือใหม่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
1. Divi
Divi เป็นตัวเลือกอันดับแรกและยังเป็นตัวทำเว็บ WordPress ระดับพรีเมียมที่ปรับแต่งได้มากที่สุด Divi โดดเด่นด้วย Visual Builder แบบลากและวาง ที่ช่วยให้คุณออกแบบทุกส่วนของเว็บไซต์ได้จากส่วนหน้าของเว็บไซต์ ฟีเจอร์สำคัญที่น่าสนใจคือ Divi Quick Sites ซึ่งมีการทำงาน 2 โหมดการในการสร้างเว็บไซต์ตามภาพ
Divi AI สามารถสร้างเลย์เอาต์ของหน้าเว็บไซต์ ข้อความ รูปภาพ หรือโค้ดแบบกำหนดเองได้ ผ่านการสั่งงานแบบอัจฉริยะ เหมาะสำหรับปรับปรุงเนื้อหาที่มีอยู่แล้วหรือสร้างตัวเลือกการออกแบบใหม่ ๆ ด้วยเครื่องมือ AI
Divi Starter Sites
โหมดนี้ช่วยสร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงหน้าหลักทุกหน้าที่จำเป็น เทมเพลตจาก Theme Builder การตั้งค่าทั่วโลก (Global Presets) การเชื่อมต่อกับระบบอีคอมเมิร์ซ และรูปแบบการออกแบบทั้งหมดที่พร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ผู้ใช้งาน Divi ยังสามารถเริ่มต้นด้วยหนึ่งในเว็บไซต์เริ่มต้น (Starter Sites) ที่มีการออกแบบสำเร็จรูป ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและแรงในการสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้น
Divi Offers Full Site Editing
Divi Theme Builder ยังมาพร้อมกับ Theme Builder ซึ่งช่วยให้คุณสร้างเลย์เอาต์ธีมที่กำหนดเองได้ เช่น ส่วนหัว (Header) ส่วนท้าย (Footer) เทมเพลตโพสต์ในบล็อก และแม้แต่หน้าประเภทแท็กหรือหมวดหมู่ นอกจากนี้ Divi ยังรองรับการทำงานร่วมกับปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress
ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ทุกรูปแบบตามต้องการ ถ้าคุณต้องการเริ่มต้นด้วยเลย์เอาต์ที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า Divi มีเลย์เอาต์ที่ออกแบบโดยมืออาชีพกว่า 2,000 แบบ ให้คุณนำเข้ามาใช้งานได้ในคลิกเดียว
ข้อดีของ Divi
- สร้างเว็บไซต์ได้ในเวลาไม่ถึง 2 นาที : Divi สามารถสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ได้ รวมถึงหน้าเพจ , เทมเพลต Theme Builder , การตั้งค่าต่างๆ , เมนูนำทาง และช่องทางสำหรับเชื่อมต่อกับอีคอมเมิร์ซในเวลาอันรวดเร็ว
- Divi AI : ใช้ AI เพื่อสร้างหน้าเว็บไซต์ทั้งหมด รูปภาพแบบกำหนดเอง , เนื้อหาข้อความ , หรือโค้ด
- การแก้ไขเว็บไซต์ทั้งหมด : Theme Builder ของ Divi ช่วยให้คุณสร้างเทมเพลตเนื้อหาแบบไดนามิก เช่น ส่วนหัว , ส่วนท้าย , ผลลัพธ์การค้นหา , โพสต์ และอื่น ๆ
- ตัวแก้ไขแบบลากและวาง (Drag-and-Drop Visual Builder) : สร้างหน้าเว็บบนส่วนหน้า ด้วยตัวสร้างเพจแบบไม่ต้องเขียนโค้ด
- ชุดเลย์เอาต์ (Layout Packs) : เลือกจากเลย์เอาต์ที่ออกแบบโดยมืออาชีพได้มากกว่า 2,000 แบบ
ข้อเสียของ Divi
- ความไม่แม่นยำในบางกรณี (Potential Inaccuracies) : เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ AI อื่น ๆ การสร้างภาพด้วย AI อาจต้องมีการทดงใช้งานหลายครั้ง แต่โชคดีที่ Divi AI ให้คุณสร้างได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้เครดิตเกินความจำเป็น
เหตุผลที่เราเลือก Divi
Divi เป็นโซลูชันครบวงจรสำหรับการสร้างเว็บไซต์ ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Divi AI, Theme Builder, และตัวสร้างหน้าแบบลากและวางโดยไม่ต้องเขียนโค้ด Divi มีคุณสมบัติหลากหลายให้เลือกใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถเลือกจาก เทมเพลตที่ออกแบบโดยมืออาชีพกว่า 2,000 แบบ
สามารถสร้างเว็บไซต์เริ่มต้นที่มีเนื้อหาและรูปภาพครบถ้วน เริ่มต้นจากศูนย์หรือสร้างหน้าเว็บไซต์ด้วย Divi AI ไม่ว่าคุณจะวางแผนสร้างเว็บไซต์ WordPress แบบไหน Divi คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
Divi เหมาะสำหรับใคร ?
Divi เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการตัวสร้างเว็บไซต์ WordPress มีฟีเจอร์ครบครัน ตั้งแต่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซไปจนถึงระบบจัดการการเรียนรู้ (LMS)
การทำงานของ Divi ยังรองรับการทำงานร่วมกับปลั๊กอินหลายร้อยตัวได้อย่างไร้รอยต่อ หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่ปรับแต่งได้และออกแบบอย่างสวยงาม Divi คือคำตอบสำหรับคุณ
รีวิวและคะแนนจากชุมชน
ผู้ใช้งาน Divi ชื่นชอบความสามารถในการสร้างเว็บไซต์ที่ ตอบสนองได้ดีด้วยธีม Divi และยังประทับใจกับตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย
ราคา
เริ่มต้นที่ $89 ต่อปี
Divi Pro ราคา $277 ต่อปี รวมถึงผลิตภัณฑ์ในระบบทั้งหมดของ Divi ได้แก่ Divi Cloud, Divi Teams, Divi AI, และ Divi VIP
2. Beaver Builder
อีกหนึ่งตัวสร้างเว็บไซต์ WordPress ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก Beaver Builder อาจไม่ได้มีฟีเจอร์มากมายเหมือนตัวสร้างเว็บไซต์อื่น ๆ แต่การทำงาน Beaver Builder ก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจสำหรับนักออกแบบเว็บไซต์ จุดเด่นของมันอยู่ที่การทำงานที่รวดเร็วและเบา การผสานรวมโดยตรงกับ Gravity Forms และความสามารถในการ White-labeling
สร้างหน้าเว็บด้วยวิดเจ็ตการออกแบบกว่า 100 แบบ
Beaver Builder มาพร้อม โมดูลการออกแบบ (Design Modules) ที่คล้ายกับ WPBakery แต่ใช้งานง่ายกว่า การทำงานเวอร์ชั่นฟรีคุณสามารถเข้าถึงโมดูลการออกแบบกว่า 30 แบบ ในส่วนเวอร์ชันโปรมาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น โมดูลพรีเมียมกว่า 100 แบบ , เทมเพลตออกแบบ 30+ แบบ และเทมเพลตหน้า Landing Page กว่า 25 แบบ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น การสร้างโมดูลแบบกำหนดเอง และการบันทึกหรือส่งออกเลย์เอาต์สำหรับผู้ใช้งานขั้นสูง
ข้อดีของ Beaver Builder
- White-label WordPress (เฉพาะ Plan Agency) : สร้างเว็บไซต์ด้วยการปรับแต่งด้วยโลโก้และสีของพวกเขา
- ทำงานเบาและโหลดเร็ว : Beaver Builder มีชื่อเสียงในเรื่องเวลาโหลดที่รวดเร็วและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพเว็บไซต์น้อย เนื่องจากใช้โค้ดน้อยที่สุด
- ใช้งานได้ไม่จำกัดเว็บไซต์ : ใบอนุญาตของ Beaver Builder รองรับการสร้างเว็บไซต์ได้ไม่จำกัด
- โมดูลการออกแบบ 30+ แบบ : เวอร์ชันฟรีของ Beaver Builder มีโมดูลการออกแบบให้เลือกกว่า 30 แบบ
ข้อเสียของ Beaver Builder
- เทมเพลตการออกแบบจำกัด : ตัวเลือกเทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้าของ Beaver Builder มีจำกัดเมื่อเทียบกับตัวสร้างเว็บไซต์ยอดนิยมอื่น ๆ เช่น Divi
เหตุผลในการเลือก Beaver Builder
Beaver Builder เหมาะสำหรับการทำงานทั้งมืออาชีพและมือใหม่ มีจุดเด่นในเรื่องของการทำงานที่ความเร็ว มีประสิทธิภาพ และการควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่
รีวิวและคะแนนจากชุมชน
ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบ Beaver Builder ต่างยกให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและน่าใช้งาน ผู้ใช้งานบางคนกล่าวว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้พัฒนามืออาชีพ
Beaver Builder เหมาะสำหรับใคร?
หากคุณกำลังมองหาตัวสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย Beaver Builder เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มันทำงานได้รวดเร็ว มีตัวเลือกการปรับแต่งที่แทบจะไม่จำกัด และใช้เวลาเรียนรู้เพียงเล็กน้อย มีฟีเจอร์พิเศษที่น่าสนใจ เช่น ความสามารถในการสร้างโมดูลแบบกำหนดเองและบันทึกเลย์เอาต์เพื่อใช้งานในภายหลัง ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ
ราคา
Beaver Builder มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน ส่วนแผนโปรเริ่มต้นที่ $99 ต่อปี