หนึ่งในเป้าหมายของนักทำ SEO ก็คือการทำให้ เว็บไซต์ นั้นขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด หรือ ติดอันดับหน้าแรกให้ได้ แต่การที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายนั้นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่ามีหลากหลายองค์ประกอบมาก กว่าที่จะไปถึงจุดสูงสุดได้ ทำผู้ทำเว็บไซต์ต้องพยายามหาเทคนิค เพื่อที่จะเข้ามาช่วยทำให้เว็บไซต์ ถูกใจ Google และผู้ใช้งาน จนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดได้ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับการทำเว็บไซต์ ก็คือ Site Structure หรือ การวางโครงสร้างเว็บไซต์ให้ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อนนั่นเอง
Site Structure คืออะไร ?
Site Structure หรือ โครงสร้างเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่จะบอกให้กับทุกท่านที่เข้ามาที่เว็บรู้ว่า เว็บไซต์นี้เกี่ยวกับอะไร และมีอะไรที่เชื่อมโยงถึงกันบ้าง แน่นอนว่าจะมีหน้าที่เหมือนกับแผนที่เว็บไซต์ ซึ่งการที่ตัวเว็บมีการจัดวางโครงสร้างที่ดีก็จะช่วยทำให้ Google Bot นั้นเข้ามาเก็บข้อมูล และทำความเข้าใจตัวเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทำให้ตัวเว็บมีโอกาสที่จะติดอันดับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
และนอกจากจะช่วยทำให้กูเกิ้ลเข้าใจง่ายขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้ผู้ใช้งานจริง ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ยังสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้งานใช้เวลาบนหน้าเว็บไซต์เรานานขึ้น แถมยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ทำให้อยากจะกลับเข้ามาที่เว็บไซต์เราอีกด้วย ดังนั้นแล้วการทำให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่ดีและถูกต้อง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการทำเว็บให้ติดอันดับ
การจัดวางโครงสร้างให้ดี และถูกต้อง มีความสำคัญยังไง ?
สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นในการทำเว็บ อาจจะยังไม่รู้ว่า site structure คือ การจัดวาง โครงสร้างเว็บไซต์ ให้ถูกต้องและเป็นระเบียบ นั้นมีความสำคัญอย่างไร ซึ่งในวันนี้พวกเราทีมงาน seoguru ก็จะพาทุกท่านไปดูกันว่า เมื่อทำแผนโครงสร้างเว็บให้เป็นระเบียบแล้ว จะช่วยทำให้เว็บนั้นดีขึ้นยังไงบ้าง
1. ให้ประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน
แน่นอนว่าการที่เว็บจะติดอันดับ Google ได้ก็จำเป็นที่จะต้องทำเว็บออกมาให้ดี ทำให้ผู้ใช้งานเข้าอยู่ในเว็บไซต์นานๆ และการวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้ใช้งาน ค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทำให้รู้สึกดีกับการเลือกใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นเว็บไซต์ที่จะถูกจัดอันดับให้ดีกว่าเว็บทั่วๆไป วิธีเช็คอันดับ google ง่ายๆ ใช้งานฟรี
2. ทำให้ติดอันดับไวขึ้น
การที่เรางวางโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดี ก็จะช่วยทำให้ Bot เข้ามาเก็บข้อมูล และเข้าดูเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แถมยังเข้าใจตัวเว็บไซต์ได้อย่างละเอียดอีกด้วย ทำให้ตัวเว็บนั้นจะถูกดึงข้อมูลไปอย่างรวดเร็ว แถมยังจะถูกจัดอันดับให้มีการแสดงผลที่รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งสามารถที่จะเช็คอันดับได้ผ่าน CHROME BROWSER
Site Structure ที่นัก SEO ต้องรู้
- โครงสร้างแบบ Flat Site กำลังมาแรง
Google ในยุคใหม่ชอบเว็บไซต์ที่มีโครงสร้าง แบน หรือ Flat Structure มากกว่าแบบลึกหลายชั้น เพราะเข้าถึงง่ายและโหลดข้อมูลได้เร็วกว่า เช่น จากหน้า Home → Category → Content ก็เพียงพอ ไม่ต้องซับซ้อนเกินไป
- Schema Markup คือหัวใจของการสื่อสารกับ Google
เว็บไซต์ที่ใส่โครงสร้างข้อมูล (Structured Data) จะได้เปรียบ เพราะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาหน้านั้นเป็นบทความ รีวิว หรือสินค้าอะไร และช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสขึ้น Rich Snippet ดึงดูดสายตาผู้ค้นหา
- Internal Linking ต้องมีเจตนา ไม่ใช่สุ่มวาง
การใส่ลิงก์ภายในต้องเชื่อมโยงตามเส้นทางความสนใจของผู้อ่าน เช่น จากบทความ Site Structure ไป Crawl Budget หรือ Page Speed เพื่อเพิ่มเวลาในการอยู่บนเว็บ และลด Bounce Rate
- Mobile-First Structure คือสิ่งจำเป็น
เมื่อกว่า 80% ของผู้ใช้งานเข้าผ่านมือถือ เว็บไซต์ต้องมีโครงสร้างที่เหมาะกับจอเล็ก คลิกง่าย โหลดเร็ว เพื่อไม่ให้ผู้ใช้หลุดออกก่อนอ่านจบ
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการวางโครงสร้างเว็บไซต์ ก็คือ การที่เราจะต้องคิดถึงความเรียบง่าย มาเป็นอันดับแรก เพื่อที่จะทำให้มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก หรือ ซับซ้อนจนเกินไป แถมยังทำให้ผู้ใช้งานเข้าใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และครบถ้วน ซึ่งวิธีการวางโครงสร้างที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นยังไง ตามเรามาดูกันเลย
หลักการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ อย่างถูกต้อง
1. การเลือกรูปแบบของโครงสร้าง
สิ่งแรกเลยก็คือ การเลือกรูปแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ เพื่อที่จะเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด และตัวเลือกที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุดก็คือ Hierarchical หรือที่รู้จักกันว่า โครงสร้างต้นไม้ แน่นอนว่าโครงสร้างแบบนี้นั้นสามารถใช้งานกับเว็บได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เว็บเล็ก หรือ เว็บใหญ่ ก็สามารถที่จะใช้งานได้ แถมยังมีการจัดหมวดหมู่อย่างละเอียด ทำให้เราสามารถเข้าไปยังหน้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ทำให้การใช้งานเว็บนั้นเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังมีการวางเส้นทางเอาไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ดังนั้นแล้ว บอทกูเกิ้ล นั้นจะมาเก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วนแน่นอน
2. วางโครงสร้าง หน้าหลัก ( Homepage ) ให้ดี
หน้าหลัก นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำเว็บไซต์ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของเว็บ ดังนั้นแล้วเราต้องเช็คให้ดีว่าหน้าหลักนั้นมีการทำ internal links ที่เชื่อมต่อไปยังหน้าอื่นๆได้หรือไม่ โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญๆที่เราจะต้องสามารถเข้าดูได้ผ่านทางคลิ๊กลิงค์ที่หน้าหลักด้วย
3. มีการนำทางและเมนูที่ใช้งานง่าย
แน่นอนว่าเมื่อผู้ใช้งาน ได้เข้ามาสู่หน้าหลักของเว็บไซต์แล้ว เราก็ต้องคิดให้ละเอียดว่าผู้ใช้งานนั้นต้องการอยากจะได้อะไรเพิ่ม โดยเราสามารถที่จะสร้างการนำทาง หรือ เมนู ให้กับผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบาย ในการกดเข้าใช้งานได้ไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หน้าหลัก , สินค้า , ติดต่อเรา , เกี่ยวกับ และอื่นๆอีกมากมาย
4. จัดหมวดหมู่ให้ถูกต้อง
การสร้างหมวดหมู่ หรือ Category นั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้งานจริง เข้าถึงสินค้า หรือ สิ่งที่เราต้องการได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม โดยเราสามารถที่จะแยกหมวดหมู่ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าผู้ชาย , สินค้าผู้หญิง , สิ้นค้าเด็ก และอาจจะมีย่อยต่อมาว่าเป็น รองเท้าฟุตบอล , รองเท้าวิ่ง , เสื้อ , กางเกง
เคล็ดลับออกแบบให้เหมาะกับ SEO
- ใช้ Sitemap XML + HTML เพื่อให้ทั้ง Google และผู้ใช้เข้าใจลำดับข้อมูลได้ง่าย
- อัปเดต Sitemap ทุกครั้งเมื่อเพิ่มหน้าใหม่ และส่งผ่าน Google Search Console
- ใช้ Breadcrumb เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รู้ตำแหน่งของตนในเว็บ
- ออกแบบ URL ให้สั้น กระชับ และสื่อความหมาย เช่น /seo/site-structure-2025
- วางแผนเนื้อหาแบบ Topic Cluster เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (สอดคล้องกับหลัก E-E-A-T ของ Google)
สรุป เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างดี จะช่วยให้ SEO ดีด้วย
เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างดี จะช่วยให้ทั้งผู้ใช้และ Google เข้าใจในเวลาไม่กี่วินาที และนั่นคือก้าวแรกของการติดอันดับที่มั่นคงและยั่งยืน ดังนั้นแล้วนักทำเว็บท่านไหน ที่ยังไม่เคยวางแผนโครงสร้างเว็บไซต์มาก่อน ก็บอกได้เลยว่าถ้าหากทำตามที่เราแนะนำ ก็จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสที่จะติดอันดับง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าหากคุณต้องการความรวดเร็ว เรียบง่าย และติดอันดับไว ก็สามารถ ปรึกษา SEOGURU ฟรี ได้เช่นเดียวกัน เพราะเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี คอยดูแลเว็บไซต์ให้คุณอย่างมืออาชีพ