Slug คืออะไร? พร้อมแนะนำเทคนิคการเขียนให้ถูกหลัก SEO

Slug คือ

ในการทำเว็บไซต์เพื่อการตลาดดิจิทัลหรือ SEO หลายคนมักให้ความสำคัญกับเนื้อหา คีย์เวิร์ด หรือการออกแบบ แต่บางครั้งกลับมองข้ามส่วนสำคัญที่มีผลต่ออันดับใน Google อย่าง Slug

Slug อาจดูเหมือนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของ URL แต่ในความเป็นจริง มันมีบทบาทสำคัญมากในการสร้างความน่าสนใจและความเข้าใจให้กับทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา บทความนี้พวกเรา SEOGURU จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ Slug คืออะไร สำคัญอย่างไร และจะเขียนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพที่สุด

ปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับ SEO : ติดต่อ SEOGURU

URL Slug คืออะไร?

Slug คือข้อความในส่วนท้ายของ URL ที่มักจะระบุเนื้อหาของหน้าเว็บอย่างชัดเจน โดย Slug จะตามหลังชื่อโดเมนเช่น

ตัวอย่าง slug

ตัวอย่าง : www.seoguru.com/slug-คือ

ตัวอย่าง URL

ในตัวอย่างนี้ slug-คือ = Slug ซึ่งบอกว่าเนื้อหาในหน้านี้เกี่ยวกับคำแนะนำในการเขียน Slug เพื่อ SEO

Slug มีความสำคัญเพราะช่วยให้ทั้งผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาเข้าใจว่าเนื้อหาในหน้าเว็บนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร

Slug และ Permalink แตกต่างกันหรือคืออันเดียวกัน?

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Slug และ Permalink ว่าสองสิ่งนี้เหมือนกันหรือไม่ ความจริงคือ ทั้งสองสิ่งนี้ เหมือนกัน แค่ชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่นหากคุณใช้ หลังบ้านเว็บของ WordPress แต่ใช้ ปลั๊กอิน SEO คนละตัวกันในส่วนของการปรับตั้ง URL ตัวอย่างเช่น

  • ถ้าคุณใช้ปลั๊กอิน yoast seo ในส่วนของการตั้งค่า URL จะตั้งที่ Slug
  • แต่หากว่า คุณใช้ ปลั๊กอิน rank math seo การตั้งค่า URL จะตั้งค่าที่ Permalink

ทำไม URL Slug หรือ Permalink จึงสำคัญต่อการทำ SEO?

Slug และ Permalink เป็นสิ่งที่ Google และผู้ใช้งานใช้ในการประเมินความเกี่ยวข้องของเนื้อหา การมี Slug ที่ดีสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับบน Google ได้อย่างมาก เหตุผลที่ Slug และ Permalink สำคัญต่อ SEO

  • ช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด Slug ที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญสามารถช่วยให้ Google เข้าใจว่าหน้านี้เกี่ยวข้องกับอะไร
  • เพิ่มความน่าสนใจในการคลิก (CTR) Slug ที่อ่านง่ายและชัดเจนทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจคลิกได้ง่ายขึ้น
  • ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้ทันที ตัวอย่างเช่น https://www.seoguru.com/slug คือผู้ใช้จะรู้ได้ทันทีว่าหน้านี้เกี่ยวกับคำอธิบาย Slug

เทคนิคการเขียน Slug ให้ดีต่อการทำ SEO

Slug ที่ดีช่วยให้ทั้งเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้งานเข้าใจเนื้อหาได้ง่าย ต่อไปนี้คือเทคนิคการเขียน Slug ให้มีประสิทธิภาพ:

เทคนิคเขียน Slug

1. กระชับ

Slug ควรสั้นและตรงประเด็น เช่น

  • ดี: /seo-tips
  • ไม่ดี: /how-to-do-seo-like-a-professional-without-mistakes

2. เข้าใจง่าย

Slug ควรเขียนให้ผู้ใช้เข้าใจโดยไม่ต้องเดา เช่น:

  • ดี: /best-digital-marketing-tools
  • ไม่ดี: /bmdt-2023

3. ใส่คีย์เวิร์ดสำคัญ

Slug ควรรวมคีย์เวิร์ดหลักที่คุณต้องการจัดอันดับ เช่น:

  • คีย์เวิร์ด: “SEO Tools”
  • Slug: /seo-tools

4. เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายใน

Slug ควรสอดคล้องกับเนื้อหาในหน้านั้น เพื่อป้องกันการสร้างความสับสน เช่น:

  • Slug: /what-is-slug
  • เนื้อหา: อธิบายเกี่ยวกับ Slug

5. หลีกเลี่ยงตัวเลขที่อาจล้าสมัย

ตัวเลขใน Slug อาจล้าสมัยได้ เช่น ปีหรือจำนวน เช่น:

  • หลีกเลี่ยง: /top-10-tools-2023
  • แนะนำ: /top-digital-tools

6. หลีกเลี่ยงคำที่ไม่จำเป็น

เช่น คำเชื่อม “and”, “or”, “the” เพื่อให้ Slug กระชับ

Slug และ Permalink ควรใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ?

คำถามที่พบบ่อยคือ ควรใช้ Slug ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ? คำตอบขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและความสะดวกในการใช้งาน:

Slug ควรใช้ไทยหรืออังกฤษ

Slug ภาษาไทย

  • ข้อดี:
    • ชัดเจนสำหรับผู้ใช้งานคนไทย
    • เพิ่มโอกาสในการจัดอันดับสำหรับคำค้นหาภาษาไทย
  • ข้อเสีย:
    • อาจกลายเป็น URL ที่ยาวและยุ่งยาก (Encoded URL) เช่น /%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E

Slug ภาษาอังกฤษ

  • ข้อดี:
    • เหมาะกับการแชร์ลิงก์บนโซเชียลหรือในอีเมล
    • เป็นมาตรฐานสากล
  • ข้อเสีย:
    • อาจไม่เหมาะกับคำค้นหาภาษาไทย

คำแนะนำ

  • หากเป้าหมายหลักเป็นผู้ใช้งานคนไทย ใช้ Slug ภาษาไทย
  • หากเป้าหมายเป็นสากลหรือมีการแชร์ลิงก์บ่อย ใช้ Slug ภาษาอังกฤษ

บทสรุป

Slug และ Permalink อาจดูเหมือนส่วนเล็กๆ ของ URL แต่กลับมีบทบาทสำคัญต่อ SEO การเลือกและเขียน Slug อย่างเหมาะสมช่วยให้ทั้งเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

การสร้าง Slug ที่ดีควรเน้นความกระชับ เข้าใจง่าย สอดคล้องกับเนื้อหา และรวมคีย์เวิร์ดสำคัญ รวมถึงการเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

หากคุณสามารถจัดการ Slug ได้ดี มันจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์คุณ